เวลาเราพูดถึงเกมสยองขวัญ ทุกคนก็จะพุ่งเป้าไปที่สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติอย่างผีกันอยู่แล้ว เกมสยองขวัญเลยมักถูกเรียกรวมไปว่าเป็นเกมผีบ่อย ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมีหลายเกมเลยทีเดียวที่ไม่ได้มีผี แต่กลับชวนให้ผู้เล่นขนลุกยิ่งกว่าเจอผีกันจริง ๆ ซะอีก และนี่คือรายชื่อเกมสยองขวัญที่ไม่มีผี แต่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าผี
1. Bioshock วิปลาสเมืองใต้บาดาล
เห็นแล้วหลายคนอาจจะทำหน้าสงสัย Bioshock เนี่ยนะ น่ากลัว? ถ้าคุณตั้งคำถามแบบนี้แปลว่าคุณอาจจะยังไม่เคยเล่นภาคแรกหรือภาคสอง เนื้อหาของสองภาคแรกจะเซ็ตติ้งอยู่ในเมืองใต้บาดาลหรือ Rapture แถมเรื่องราวเกี่ยวกับการดัดแปลงร่างกายหรือมนุษย์เอง ก็ทำให้โลกของ Bioshock สยองขวัญขึ้นทันตา บวกกับพอรอบตัวเราเป็นน้ำ แน่นอนว่ามันก็ทำให้บรรยากาศกดดันขึ้นไปอีก แถมเกมก็รู้ตัวดีว่าเกมมันน่ากลัว เขาเลยมีฉาก Jump Scare ใส่มาให้เห็นกันแบบพอตัวเลยทีเดียว และแต่ละจังหวะที่ใช้ก็ทำเอาใจหายใจคว่ำได้หลายครั้ง ไม่แปลกใจเลยว่า หลายครั้งที่มีคนพูดถึงรายชื่อเกมที่เล่นไม่จบ Bioshock จึงเป็นสองรายชื่อในนั้นเสมอ
2. Subnautica โลกใต้น้ำคือโลกที่เราไม่รู้จัก
นี่ถือเป็นสุดยอดเกมที่หลายคนยกนิ้วให้ในเรื่องความสยองจนขนหัวลุก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีผีเลยสักตัว Subnautica เป็นเกมแนว Survival Crafting ที่เราจำเป็นจะต้องเอาชีวิตรอดหลังจากยานลำหนึ่งตกลงบนดวงดาวที่มีแต่ทะเล ดังนั้นสิ่งจำเป็นและของต่าง ๆ เราจะหาได้จากการดำลงใต้น้ำเท่านั้น แน่นอนว่ามนุษย์กลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก และถึงแม้มนุษย์จะออกเดินทางไปยังอวกาศอันไกลโพ้นได้มากแค่ไหน แต่ท้องทะเลกลับมีปริศนาอยู่มากมาย เกมนี้เล่นกับความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ และใต้ทะเลนั้นกลับมีสิ่งนั้นอยู่จริง ๆ ทั้งปลาสายพันธุ์ประหลาด หน้าตาน่ากลัวที่อาจจะทำหรือไม่ทำอะไรเราก็ได้ หนักกว่านั้นคือพวก Sea Emperor หรือจักรพรรดิแห่งท้องทะเลที่ทำเอาหลายคนกรี๊ดสนั่นจอเกมมาแล้ว บอกเลยว่าใครอยากสัมผัสประสบการณ์เกมสยองที่ไร้ซึ่งผีสักตัว ต้องลองเกมนี้
3. Grounded โลกย่อส่วนที่ทำให้รู้ว่าเราตัวเล็กแค่ไหน
แม้ภายนอกจะเป็นเกมเอาชีวิตรอดในโลกย่อส่วนสุดน่ารัก แต่หากว่ากันตามตรงและไปนั่งสังเกตเนื้อเรื่องต่าง ๆ ของมันแล้ว จะรู้ได้เลยว่านี่ไม่ใช่เกมที่น่ารักสดใสตามภาพที่เราได้เห็น แต่เป็นอีกหนึ่งเกมที่ชวนสยองขวัญใช้ได้ เพราะเนื้อหาของมันเกี่ยวกับการทดลองต่าง ๆ ที่เข้าขั้นดาร์ค และจะยิ่งสยองขวัญกว่าเดิม หากคุณเป็นคนจำพวก “กลัวแมลง” เนื่องจากเกมนี้ เราจะได้รับบทเป็นเด็กแก๊งที่ถูกย่อส่วนจนตัวจิ๋วมาก ๆ ชนิดที่ว่าพวกแมลงที่เราเคยมองว่าตัวเล็ก ยังตัวใหญ่กว่าเราหลายเท่า และเพราะแบบนี้นี่เองที่ทำให้ตัวเกมมันน่ากลัวสำหรับคนกลัวแมลง ยังมีฉาก Jump Scare และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้ Grounded กลายเป็นเกมสยองขวัญโดยไม่มีผีเลยแม้แต่ตัวเดียว
4. We Happy Few ไม่มีอะไรน่ากลัวกว่า “การหลอกตัวเอง”
นี่ก็ไม่ใช่เกมสยองขวัญโดยตรง แต่บรรยากาศโดยรอบจะกระตุ้นความสยองของเราได้อีกเยอะ We Happy Few คือเรื่องราวของชุมชนแห่งหนึ่งคล้าย ๆ กับประเทศอังกฤษช่วงยุคปี 50-60 ประชาชนในชุมชนแห่งนี้ต้องกินยาบางอย่างเพื่อทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขตลอดเวลา แต่ถ้าผู้เล่นขัดขืนไม่ยอมกินยา ผู้เล่นจะได้เป็นคนที่ได้สติ และรับรู้ความจริงเบื้องหลังอันฟอนเฟะในชุมชนแห่งนี้ไปเรื่อย ๆ ทีนี้คุณก็ต้องเลือกเอาว่า จะกินยาเพื่ออยู่รอด หรือจะเผชิญหน้ากับความจริง ซึ่งเกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่หลายคนยกย่องให้ว่ามันเป็นเกมจิกกัดเสียดสีสังคมและชนชั้นของมนุษย์ได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ และเป็ฯเกมที่เมื่อคุณรับรู้ความจริงเบื้องหลังแล้ว มันน่าขนลุกขนพองพอ ๆ กับการเจอผีดี ๆ นี่เองโดยที่ไม่ต้องเจอสักตัว ใครอยากรู้ว่าเพราะอะไร ลองไปหาคำตอบกันเอาในเกมนี้
5. Stanley Parable ความไม่รู้ก็คือความน่ากลัว และอาจน่ากลัวที่สุดในโลก
หากคุณเคยได้ยินคำพูดว่า “ความไม่รู้คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก” เกม Stanley Parable ก็อาจจะเป็นตัวช่วยตอกย้ำคำพูดนี้ให้เป็นความจริง ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Stanley พนักงานบริษัทที่วัน ๆ ติดอยู่แต่ในพื้นที่อันอ้างว้างและเปลี่ยวเหงา เขาไม่มีศัตรู แต่ก็ไม่มีเพื่อนด้วยเช่นกัน ผู้เล่นจะไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร และไม่รู้ด้วยว่าจะต้องพบเจอกับอะไร ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ในเกมคืออะไร คุณจะฟังและทำตามคำบรรยายของผู้บรรยายภายในเกม แถมในเกมยังมีมุกตลกร้าย จิกกัดเสียดสีบุคลากรในวงการเกมแทบจะทุกระดับ ตั้งแต่เกมเมอร์ยันคนสร้าง นี่คือสุดยอดเกมที่ใช้จิตวิทยาและการตีความสูงมาก และได้รับคำชมสูงลิ่ว แต่มันขึ้นอยู๋กับว่าคุณจะรับสารที่เกมมันสื่อไว้ได้หรือเปล่าด้วย
6. This War of Mine สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือมนุษย์ ที่พ่วงด้วย “สงคราม”
ผลงานระดับขึ้นหิ้งของ 11Bit Studio ผู้สร้างเกมบริหารจัดการและวางแผนสุดบีบคั้นหัวใจ และเป็นการกรุยทางไปสู่เกมดังเกมใหม่อย่าง Frostpunk นี่คือเกมที่จำลองสถานการณ์ว่าประเทศหนึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ไฟสงคราม จนเหล่าประชาชนต้องหาทางเอาตัวรอดกันเอง อันเกิดเป็นสถานการณ์สุดบีบคั้นที่ผู้เล่นจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวละครรอด โดยมีผลกระทบและสภาวะต่าง ๆ เข้ามา เช่น ถ้าตัวละครของคุณได้นอนบนพื้นไม้แข็ง ๆ ก็จะรู้สึกหดหู่หรือเศร้า แต่ถ้าสร้างเตียงนอนไม่ครบจำนวน คนที่เหลือก็อาจจะไม่พอใจ หรือบางครั้งการออกหาเสบียงหรือทรัพยากรที่ใช้ในการเอาตัวรอด อาจจะต้องจำใจปล้นบ้านที่มีคนแก่หรือเด็ก และแม้ว่าเราจะเอาของกลับมาทำให้เราและคนอื่น ๆ รอด ตัวละครก็อาจจะรู้สึกเศร้า เสียใจที่ต้องลงมือกับคนไร้ทางสู้ นี่คือเกมที่ทำให้คุณสยองขวัญไปกับคำพูดที่ว่า มนุษย์นั้น น่ากลัวที่สุด และมันจะน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ถ้าเราอยู่ในสภาวะ “สงคราม”
