เราเสียเงินซื้อเกมทั้งที ก็อาจจะอยากได้สิ่งตอบแทนจากเกมที่เราเสียเงินซื้อมา บางคนอาจจะอยากได้เกมเพลย์ที่สนุก บางคนอาจจะอยากได้เนื้อเรื่องที่ดี หรือบางคนอาจจะอยากได้สิ่งอื่น ๆ จากแต่ละเกม แต่ถ้ามันเป็นเกมที่ยาวมาก ไม่แน่ว่าใครหลายคนก็อาจจะถอดใจก่อนเล่นจนจบ หรืออาจจะยกเว้น 6 เกมเหล่านี้ เพราะนี้คือ 6 เกมที่โคตรยาว แต่ยังไงก็คุ้มค่า ถ้าคุณเล่นมันจนจบ
1. Cyberpunk 2077
ช่วงเวลาเดือนธันวาคมปี 2020 ทุกคน ทุกสื่อล้วนหันมาสาปส่งเกมนี้กันอย่างเต็มข้อ ผลจากการที่ตัวเกม Launch ออกมาได้อย่างน่าผิดหวัง ทั้งบั๊ก ทั้ง Performance และประสิทธิภาพอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่ทำให้ตัวเกมที่แฟน ๆ อุตส่าห์รอคอยกันมานานกว่า 4 ปีเต็ม ไม่เป็นไปดังหวัง แต่ทีมงานไม่เคยยอมแพ้ อัปเดต ปรับปรุง แก้ไข และปล่อย DLC ตามมา และยังได้กระแสจากซีรีส์ Cyberpunk: Edgerunner ที่ช่วยให้คนได้กลับไปสัมผัสตัวเกม และพบเจอประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยม เกมมีเนื้อหาที่อัดแน่น โลกภายในเกมที่สวยงาม ภารกิจยิบย่อยหลายอย่างให้ทำ และการเดินเรื่องสุดเข้มข้น ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการเล่นสูงมากจนอาจจะแตะหลักร้อยชั่วโมง แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณเล่นจบ นี่จะเป็นเกมที่ทำให้คุณ “อิ่ม” ไปอีกนาน
2. Subnautica
เราเคยหยิบเกมนี้มาเสนอไปในฐานะ เกมน่ากลัวที่ไม่มีผี ด้วยความที่ฉากหลังคือโลกใต้มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ นอกเหนือจากนั้นยังเต็มไปด้วยทรัพยากรต่าง ๆ ที่พร้อมจะทำให้เราใช้ชีวิตได้ แต่เป้าหมายหลักของเกมนี้ก็คือการหาทางหนีออกจากดวงดาวที่เต็มไปด้วยน้ำทะเลแห่งนี้ และระหว่างทางมันก็มีเรื่องราวอันลึกล้ำซับซ้อนชนิดที่ว่า ใครไม่ได้อ่านก็อาจจะพลาดเนื้อหาสุดเข้มข้นไป ด้วยความที่เกมมันเป็นรูปแบบ Survival Craft ด้วยส่วนหนึ่ง ทำให้ Subnautica เป็นอีกเกมที่ดูดเวลาชีวิตคุณมาก ๆ แต่ถ้าตามเก็บเบาะแส ตามอ่านเนื้อเรื่อง นี่คืออีกหนึ่งการเดินทางอันแสนคุ้มค่า แม้หลายคนอาจจะถอดใจเลิกเล่นไปเพราะเจ้า Leviathan ก่อน
3. The Legend of Zelda: Breath of the Wild & Tears of the Kingdom
ใครตามเพจเราก็น่าจะรู้กันดีว่าเราคือสาวก Nintendo เหมือนกัน และนี่คือชื่อของเกมที่ยังไงก็ไม่อยากให้พลาด สำหรับคนที่เป็นเจ้าของเครื่อง Nintendo Switch สำหรับ Zelda แล้ว มันคือไอพีเรือธงของค่าย Nintendo ส่วนสองภาคนี้คือภาคที่เหมือนกับการต้อนรับผู้เล่นหน้าใหม่ ทุกคนจะได้เรียนรู้ และเข้าใจโลกของเกมอย่างง่าย ๆ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเกมที่ลงให้เครื่องพกพาอย่าง Nintendo Switch แต่เกมนี้ยาวมาก ถ้าเอาสองภาครวมกัน บอกเลยว่าเล่นกันได้เป็นปี ๆ ด้วยซ้ำ สำหรับคนที่มีเวลาเล่นน้อยน่ะนะ เกมจะมีการออกสำรวจพื้นที่ขนาดใหญ่ มีรูปแบบการสำรวจมากมาย เครื่องร่อน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราสร้างเองได้ (ในภาค TotK) เรายังหาฟาร์มสิ่งของมาอัปเลเวลตัวละคร ชุดเกราะ อาวุธ ทำอาหาร และอื่น ๆ อีกมาก มันยาวมาก แต่นี่คืออีกเกมคุณภาพที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะภาคแรกที่ถึงขั้นคว้ารางวัลเกมแห่งปี 2017 ไป
4. Elden Ring
มีใครบ้างไม่รู้จัก FromSoftware ค่ายเกมระดับตำนานที่ฝากผลงานไว้กับเกมที่มีระดับความยากโหดหิน ทั้ง Dark Souls, Demon Souls รวมไปถึง Elden Ring สุดยอดเกมแห่งยุคสมัยที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องเคยจับเคยเล่นกันมาบ้าง แต่จะชอบหรือไม่ชอบนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง Elden Ring คือการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของผู้มัวหมอง FromSoftware สร้างเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขึ้นมา แม้กระทั่งผู้เล่นเกมค่ายนี้ยังต้องซูฮก ไม่มีใครรู้ว่าทางเดินข้างหน้าของคุณจะมีอะไรรออยู่ มันยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความยากสุดดึงดูดและท้าทายที่รอให้ผู้เล่นลับฝีมือตัวเองจนสุด ฝ่าฟันอุปสรรคไปจนถึงจุดหมายปลายทาง เก็บเกี่ยวเรื่องราวระหว่างทาง และดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพในเกม ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านี่คือหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของโลก และการันตีด้วยรางวัลเกมแห่งปีประจำปี 2022
5. Xenoblade Chronicles
เครื่องของ Nintendo ไม่ได้มีแค่ Zelda เท่านั้นที่เป็นสุดยอดเกม แต่ Xenoblade Chronicles ก็คือหนึ่งในนั้น หลายคนแทบจะยกให้มันเทียบเท่า Elden Ring ในแง่ของความยิ่งใหญ่ของโลกภายในเกม เกมเล่าเรื่องราวของการเดินทางผ่านสองทวีปขนาดใหญ่ แต่ละพื้นที่ แต่ละย่างก้าวที่คุณออกเดิน มันจะตอกย้ำเสมอว่าคุณกำลังอยู่ในโลกที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน หนักกว่านั้นคือ ภารกิจเสริมบางภารกิจอาจต้องใช้ระยะเวลาแทบจะทั้งเกมเหมือนกันในการทำให้เสร็จ ไม่เพียงแต่เนื้อเรื่องและโลกภายในเกมเท่านั้น เพราะการกระทำทุกอย่างของคุณจะส่งผลต่อโลกในเกม สำหรับเกมอื่นอาจจะเป็นเหมือนโฆษณาที่ทำไม่ได้จริง แต่กับเกมนี้มันทำได้จริง ๆ Xenoblade Chronicles จะเป็นอีกเกมที่ยาวนานที่สุดที่คุณจะได้เล่น แต่มันจะคุ้มค่าแน่นอน
6. Red Dead Redemption 2
พูดถึง Rockstar นอกจาก GTA แล้ว ใครบ้างจะไม่นึกถึงเกม Open World ในโลกคาวบอยตะวันตกอย่าง Red Dead Redemption กันบ้าง ภาคแรกนั้นด้วยความที่หาเล่นยากไปหน่อย แต่อีกประเด็ฯหนึ่งคือภาค 2 มันทำมาในระดับที่สุดยอดมาก ๆ ตลอดการผจญภัยใน RDR2 นั้น ใช้ความยาวในการเล่นมากกว่าภาคแรกเกือบเท่าตัว และไม่ว่าคุณจะตีความว่าการเล่นจบของคุณเป็นอย่างไร แต่โลกในเกมนี้มันมีอะไรรอให้เราไปทำอีกเยอะ ทั้ง Storytelling หรือการเล่าเรื่อง ที่แม้เราจะรู้ชะตากรรมตอนจบอยู่แล้ว (เพราะนี่คือเหตุการณ์ก่อนเกมภาค 1) แต่เพราะพวกเขาเขียนเรื่องเก่งมาก เลยทำให้ระหว่างทาง สนุกไม่แพ้ปลายทาง ยังมีกิจกรรมภายในเกมอีกมากมาย ทั้งการล่าค่าหัว ล่าสัตว์ ต่อสู้รังโจร และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้ Red Dead Redemption 2 เป็นสุดยอดเกมที่ควรค่ากับการฝ่าฟันไปจนปลายทาง
