7 ข้อต้องรู้ สำหรับมือใหม่ที่เข้าสู่โลก Overwatch 2

Overwatch เกมยิงยอดฮิตตั้งแต่ปี 2016 ที่ตอนนี้เดินทางเข้าสู่ภาค 2 แล้ว และเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นเกมเล่นฟรี แน่นอนว่าตอนนี้สมรภูมิ Overwatch อัดแน่นไปด้วยเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาเยือนมากมาย และด้วยความที่เกมนี้เต็มด้วยฮีโร่กว่า 35 ตัว โหมดเกมการเล่นอีกหลากหลาย งานนี้หน้าใหม่อาจจะมึนไม่ใช่น้อย เพราะงั้นวันนี้ เรามาเรียนรู้กันกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย สำหรับเหล่ามือใหม่ที่เพิ่งเข้ามายังโลกของ Overwatch กัน

แม้จะมีฮีโร่มากมาย แต่จงจำไว้ว่า มันมีเพียง 3 คลาส

Overwatch 2 มีฮีโร่มากถึง 35 ตัว และน่าจะมากขึ้นในปัจจุบันด้วย แต่สำหรับผู้เล่นใหม่แกะกล่อง จะได้เล่นทั้งหมด 13 ตัว และค่อย ๆ ปลดล็อคไปเรื่อย ๆ แต่ถึงแม้ฮีโร่จะเยอะแค่ไหน แต่สิ่งที่ผู้เล่นใหม่ควรจำไว้ก็คือ มันแบ่งออกเป็น 3 คลาสเท่านั้นคือ Tank / Damage / Support แต่ละสายก็จะมีหน้าที่ความสามารถที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และเกื้อหนุนกันและกันเสมอ

ตัวละคร Tank จะมีความสามารถในการดูดซับรับดาเมจได้มากกว่าตัวอื่น แต่จะเชื่องช้า และมีพลังโจมตีไม่สูง ในภาคนี้ที่ลดจำนวนคนเล่นเหลือทีมละ 5 คน จึงมีความสำคัญในการยืนรับดาเมจและคอยค้ำให้ทีม ตัวละครสาย Support จะมีความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิตและเสริมพลังเพื่อนร่วมทีมไม่ว่าจะเป็นการสร้างเกราะ สร้างความป่วนให้ศัตรู และสุดท้าย ตัวละครสาย Damage จะทำหน้าที่สร้างความเสียหายกับศัตรูเป็นหลัก หน้าที่คือการไปล้วง Damage ด้วยกันเอง หรือจัดการ Support ฝ่ายตรงข้าม

ขอเพียงเข้าใจกติกาเพียงเท่านี้ ก็ถือว่าเข้าใจเกมไปเกินครึ่งนึงแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการเล่นบ่อย ๆ ของผู้เล่น และข้อสำคัญเลยคือ ก่อนจะเลือกเล่นตัวอะไร ทำความเข้าใจสกิลและความสามารถของมันก่อนด้วย

ลืมทุกอย่างที่คุณรู้มาจากเกมยิงเกมอื่น ๆ

ตามปกติแล้วเกมยิงทั้งหลายจะมีเงื่อนไขที่ไม่ค่อยซับซ้อนนัก ส่วนมากก็เป็นการยึดจุด วิ่งยิงกระจายตามสไตล์เกมแนวนี้ ซึ่งมันใช้ไม่ได้กับเกมนี้ นอกจากตัวละคร Soldier 76 ที่พอจะวิ่งยิงเหมือน Call of Duty ได้นั้น สิ่งอื่น ๆ ภายในเกมจะถูกผูกไว้กับคูลดาวน์ ไม่ว่าคุณจะแอ็คชั่นอะไร ใช้สกิลที่มีผลกับฝั่งตรงข้ามยังไง ก็จะมีคูลดาวน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้คุณไม่สามารถเก่งได้ตลอด หรือกดใช้สกิลมั่ว ๆ ไม่ได้

นอกจากนั้นเกมนี้จะไม่มีการยิงแบบเข้าสโคป การคลิกขวาของเกมนี้ส่วนมากจะเป็นการใช้สกิลพิเศษบางอย่างของตัวละครนั้น ๆ ดังนั้นถ้าคุณติดเล่นเกมยิงเกมอื่น ๆ มาก่อน มาเล่นเกมนี้ก็ต้องปรับตัวกันยกใหญ่เลยทีเดียว

หาตัวละครที่คุณชอบให้เจอ จากนั้นก็ ฝึกให้หนัก

เกมเพลย์การเล่นของ Overwatch นั้น แทบจะไม่เหมือนกันเลยสักรอบขึ้นอยู่กับด่านที่ได้เล่น ภารกิจที่ต้องทำ และทีมที่คุณต้องไปเจอ สิ่งสำคัญของเกมนี้คือการหาว่าตัวคุณเองเหมาะกับการเล่นตัวละครประเภทไหน ต่อให้เป็นตัวทำดาเมจก็ยังมีทั้งการยิงใกล้ ยิงไกล หรืออาศัยความมือไวต่อคอมโบด้วยสกิลเพื่อสังหารศัตรู ดังนั้นก่อนจะคิดว่าจะเล่นให้เก่งทุกตัว ลองหาสักตัวที่คุณชอบ จากนั้นฝึกให้หนัก จับจังหวะ และเรียนรู้การเล่นตัวละครนั้น ๆ

ที่สำคัญคือคุณควรจะเล่นเป็นอย่างน้อยตำแหน่งละ 1 ตัว ไม่ว่าจะเป็น Tank / Damage หรือ Support เพราะหากคุณไปหาห้องเล่นคนเดียวแบบไม่มีเพื่อน ถ้าเล่นแบบเลือกตำแหน่งก็อาจจะหาห้องนาน แต่ถ้าคุณไปเล่นแบบ Open Role หรือหยิบตัวละครตามใจฉันได้แล้วล่ะก็ คุณอาจจะเจอวิบากกรรม คนไทยหัวใจแครี่ เลือก Damage ทั้งทีม ไม่มี Tank หรือ Support ดังนั้นเราจึงควรเล่นให้เป็นอย่างน้อยตำแหน่งละ 1 ตัว จากนั้นหาตัวที่ชอบที่สุด และฝึกจนเชี่ยวชาญ ไม่มีใครเก่งได้จากการเล่นแต่แรก กับเกมเก่าที่มีอายุ 6 ปีแล้ว ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามา การฝึกคือหนทางเดียวที่จะทำให้คุณเก่งขึ้นได้

เข้าใจการทำ Objective และเรียนรู้จากความพ่ายแพ้

ไม่มีวิธีใดที่จะเรียนรู้ได้ไวไปกว่าการล้มเหลว ในเกมนี้เองก็เช่นกัน แม้ว่าคุณจะเล่นจบโหมดฝึกสอน เข้าใจทุกตัวละครแล้ว แต่หัวใจหลักของเกมนี้เลยคือการทำ Objective หรือทำภารกิจเงื่อนไขของเกมรอบนั้น ๆ เช่นดัน Payload เข้ายึดจุด ดันหุ่น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้เอง จากการเล่นครั้งที่ 1 2 3 และต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ เกมนี้ความสำคัญคือการทำ Objective ต่อให้คุณยิงเก่งแค่ไหน ฆ่าตายไปเป็นสิบ Team Kill ได้หลายครั้ง แต่ถ้า Objective คุณแพ้ มันก็คือแพ้ ดังนั้นสำหรับมือใหม่ทั้งหลาย เน้นไปที่ทำความเข้าใจ Objective นั้น ๆ ผสมผสานกับการฝึกฝนการเล่นตัวละคร เท่านั้นก็เพียงพอ

เรียนรู้การใช้ระบบ Ping

นับตั้งแต่ Apex Legends ออกแบบระบบ Ping มาได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ เกมอื่นก็เอาไปทำตามกันเป็นแถบ ๆ ในภาค 2 นี้ ระบบ Ping ก็ถูกเสริมเข้ามาในเกมด้วย และมันละเอียดมาก ถ้าเกิดว่าเราใช้งานบ่อย ๆ แน่นอนว่าผู้รับสารก็ต้องรู้ด้วยว่ามีคนในทีมกำลังจะสื่อสารด้วยการ Ping วิธีการ Ping นั้น ง่ายมาก ๆ แค่กดเมาส์กลาง หรือใช้ D-pad กรณีคุณเล่นด้วยจอย การ Ping จะทำให้เรารู้ว่าทีม หรือสมาชิกในทีมพยายามจะสื่อสารอะไรกับเรา เช่นออกคำสั่งรวมตัว ร้องขอการฮีล หรือต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันอาจจะไม่มีประโยชน์เท่ากับการเปิดไมค์คุยกัน แต่ในบางครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการ Toxic หรืออะไรก็ตาม การใช้ระบบ Ping ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่แพ้กัน

เรียนรู้สถานการณ์เกมผ่านกระดานคะแนนหรือ Scoreboard

นิสัยหลักของคนเล่นเกมยิงคือชอบกด Tab แบบเคยตัว เพื่อเรียกกระดานคะแนนหรือ Scoreboard และเกมนี้ประโยชน์ของมันก็มีมากกว่าการได้เห็นว่าเพื่อนในทีมกำจัดศัตรูไปได้เท่าไร แต่มันสะท้อนให้เห็นเลยว่าภาพรวมของทีมคุณนั้น ทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน และมันยังระบุชัดเจนเลยว่า ทำไมเกมนั้นคุณถึงแพ้หรือชนะ

ก่อนจะดูตัวเลข ในแถวแรก จะเห็นเลยว่าสมาชิกทีมแต่ละคนเลือกตำแหน่งอะไร หยิบตัวละครใดมา การเห็นฮีโร่ในทีมเราหรือทีมศัตรูนั้นจะทำให้เราคิดและวางแผนการเล่นได้ดีขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวละครมา Counter กลับด้วย ถัดมาคือแท็บ E/A/D หรือ Elimination / Assist / Death แน่นอนว่าเกมนี้ไม่ควรตายเยอะ กระดานคะแนนจะบ่งบอกได้เลยว่าผู้เล่นคนไหนโดดเด่นหรือถ่วงทีม เช่นผู้เล่นสาย Tank แต่บล็อคดาเมจได้น้อยมาก ก็อาจจะเป็นคนที่เล่นไม่เก่ง หรือเล่น Damage แล้วทำดาเมจได้น้อย หรือเล่น Support แล้ว Heal ได้น้อย กระดานคะแนนจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนแบบเถียงไม่ได้เลยทีเดียว

แม้จะมีข้อดีที่ทำให้เราเห็นรูปเกมชัดเจน แต่ข้อเสียก็คือจะเกิดการ Blame หรือโทษกันได้ง่ายมากที่สุดแล้ว ผู้เล่นใหม่อาจโดนด่าหรือ Toxic ใส่ ซึ่งก็เป็นปัญหาที่ได้อย่างเสียอย่างอยู่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยเราก็ควรหมั่นตรวจดูกระดานคะแนนบ่อย ๆ เพื่อหาจุดบกพร่องของทีมที่มีร่วมกัน

อย่าตาย สำคัญกว่ากฎข้อไหน ๆ

พูดง่าย แต่ทำได้ยากเหลือหลาย ปกติแล้วเกมยิงทั่วไป ยังไงก็ต้องโดนยิงสวนกลับจนตายกันบ้าง แต่การตายของเกมนี้แทบจะเป็นการเอื้อให้ทีมตรงข้ามปิดประตูแพ้ไปเลย เพราะทุกครั้งที่ตาย เราจะต้องกลับมาเกิดใหม่ยังจุด Checkpoint ซึ่งส่วนมากจะอยู่ห่างจากจุด Objective ที่ต้องทำเวลาที่เสียไปขณะเดินทางนี้ ทำให้ศัตรูสามารถตั้งหลัก รวมตัว Regroup และเตรียมสู้กลับเราได้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่าตาย ฮีโร่แต่ละตัวนั้นจะมีความสามารถในการเอาตัวรอดไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดการเล่นแบบ Teamplay ขึ้นมา

นอกจากนั้น หากเราตายไม่พร้อมกัน การเกิดใหม่ก็ไม่พร้อมกันด้วย ในขณะที่คนเกิดแล้วพยายามจะไปป้องกันหรือบุกโจมตีฝ่ายตรงข้าม กลับกลายเป็นว่าสมาชิกร่วมทีมยังไม่พร้อม หรือเดินทางกันอยู่ ก็จะเป็นการกลับไปตายกันทีละตัว ๆ วนลูปไปจนเราแพ้ในที่สุด สิ่งสำคัญนอกจากอย่าตายคือ เมื่อเกิดใหม่แล้ว อย่าเพิ่งวิ่งหน้าตั้งไปลุย ดูทีมก่อนว่าเขาพร้อมหรือยัง หรือถ้าเราตายแล้วคนในทีมยังเหลืออยู่ ก็ควรสื่อสารกันว่าให้ถอยมารวมตัวกันก่อน เกมนี้ทีมเวิร์คสำคัญที่สุดแล้ว

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ

Facebook
Twitter
VK

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Follow us

Scroll to Top