Core Keeper เกมแนว Sandbox Survival Open World ขนาดใหญ่ หลังจากวางจำหน่ายมาเป็นเวลากว่า 2 ปีเต็ม ตัวเกมก็เข้าสู่เวอร์ชัน 1.0 และกลายเป็นเกมเต็มอย่างเป็นทางการแล้ว โดยตัวเกมมียอดผู้เล่นเข้ามาใหม่เยอะมาก ทำให้หลายคนอาจจะพลาดเทคนิคทีเด็ดต่าง ๆ ไป และวันนี้เรารวบรวมมาให้แล้วกับ 8 ข้อสำหรับการเริ่มต้นเล่น Core Keeper ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!
1. เลือกปูมหลังตัวละครให้ดี สร้างความสะดวกสบายในตอนเริ่มต้นเล่น
ในหน้าสร้างตัวละครนั้น จะมีสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป นั่นคือปูมหลังตัวละคร หรือ Background ปูมหลังตัวละครนั้น จะมีผลกับค่าสเตตัสเบื้องต้นทั้งหมดด้วย เช่น ถ้าเลือกสายนักสำรวจ ก็จะได้ตะเกียงเล็กและเสบียงเริ่มต้น เลือกนักสู้ก็จะได้ดาบทองแดงตั้งแต่เริ่ม เลือกเชฟก็จะได้สกิลปรุงอาหารและหม้อทำอาหาร กรณีเล่นคนเดียวเราอาจจะเลือกได้ไม่ยาก แต่ถ้าเล่นกับปาร์ตี้หรือหมู่คณะ อาจจะต้องเล่นคลาสที่ต่างกันไป เพื่อทำให้การเล่นช่วงแรกสะดวกสบายและง่ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2. อย่าลืมอัปเกรดสกิล และเลือกสกิลอย่างชาญฉลาด
ในเกมนี้ ทุก ๆ กิจกรรมที่เราทำ จะทำให้ได้ค่าประสบการณ์ของสายนั้น ๆ ขุดเยอะ ก็ได้สกิลการขุด สู้เยอะก็ได้สกิลการต่อสู้ ทำอาหารเยอะก็ได้สกิลในการทำอาหาร โดยเราสามารถเปิดเมนูอัปเกรดสกิลขึ้นมา และใช้แต้มสกิลที่ได้มา เลือกอัปสกิลที่ชอบได้ ในแต่ละสายมี Skill Tree เป็นผังยิบย่อยแยกเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจจะส่งผลและเอฟเฟกต์ที่ได้ต่างกันไปด้วย เช่นสายขุด ที่เราเลือกได้ว่าจะขุดแรงขึ้น หรือขุดแล้วมีโอกาสดรอปไอเทมหายากมากขึ้น ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะรีเซ็ตสกิลได้ แต่ทางที่ดีคือเลือกอัปเกรดให้ถูกไปเลยแต่แรกจะเหมาะสมกว่า แน่นอนว่าบางสายเราอาจจะไม่ได้ใช้งาน ก็จะอัปไม่ได้ บางส่วนก็คงต้องไปพึ่งพาเพื่อนฝูงกันเอาแทน
3. สร้างโต๊ะทำงานทุกอย่างที่สร้างได้
Workbench หรือโต๊ะทำงาน สามารถสร้างได้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เลย และจะปลดล็อกโต๊ะใหม่ ๆ ในขั้นที่สูงขึ้นตามเวลาที่เล่นไปและไปเจอแร่ชนิดใหม่ สิ่งสำคัญเลยคืออย่าลืมสร้างมันไว้ที่บ้าน หลายคนไม่รู้ว่าเราสร้างโต๊ะทำงานได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม ทำให้ไม่สามารถอุปกรณ์พื้นฐานอย่างเช่นพลั่ว เสียม หรือบัวรดน้ำได้ ดังนั้น Workbench ถือเป็นไอเทมที่สำคัญสุด ๆ ในช่วงต้นเกม ไม่อย่างนั้นการสำรวจถ้ำใต้ดินในเกมนี้จะลำบากยากเย็นเอาเรื่องเลยทีเดียว โดยนอกจากสิ่งของผจญภัยพื้นฐานแล้ว Workbench ยังสร้างพวกสิ่งของและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านได้อีกด้วย ดังนั้นเราจะขอย้ำกันอีกสักรอบ ว่า อย่าลืมสร้าง Workbench!
4. ไม่อยากโลกมืด สร้างคบเพลิง (Torch) เอาไว้ด้วย
สิ่งที่คนเล่นเกมนี้หลายคนบ่นกันอุบในช่วงแรก คือแมปมันมืดจนมองอะไรแทบไม่เห็น แสงไฟจากฉากและธรรมชาติก็ไม่ได้มากพอจะทำให้เรามีหรือเห็นทัศนวิสัยรอบ ๆ ได้ ขุดบล็อกดิน เปิดแผนที่อยู่ อาจไปเตะตอกับมอนสเตอร์เอาได้ เพราะความมืด ซึ่งไอเทมที่ช่วยส่องแสงสว่างในช่วงแรกก็มีน้อยมาก ๆ แต่สิ่งที่ช่วยเราได้ และหาได้ง่ายมาก ๆ เลยก็คือ Torch หรือคบเพลิงนั่นเอง โดยนอกจากเราจะถือติดตัวไปไหนมาไหนได้แล้ว ยังสามารถวางไว้บนพื้นด้วยการคลิกขวาด้วย ตรงไหนที่แวะเดินทางผ่านบ่อย ๆ ก็สามารถคราฟท์คบเพลิงวางแปะเอาไว้ได้เลย เพราะมันใช้ของคราฟท์เป็นเพียงไม้ หรือ Wood เท่านั้น หาได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว และใช้ได้ยาว ๆ จนกว่าเราจะเจอไอเทมส่องแสงสว่างชิ้นอื่น ๆ ได้
5. ทำเตียงนอนเพื่อสร้างจุดเซฟ
Core Keeper ก็เหมือนกันกับเกมแนว Survival ทั่วไป การที่เราจะเซฟจุดเกิดตัวเองได้ก็คือการสร้างเตียงนอน และเกมนี้ยิ่งสำคัญ เพราะ Core Keeper มีการต่อสู้ที่เยอะกว่าเกมอื่น ๆ มาก ทุก ๆ การออกสำรวจเรามีโอกาสจะไปเจอรังศัตรูขนาดใหญ่ หรือหนักกว่านั้นคือการเจอบอส และมีโอกาสที่เราจะพลาดท่าตายได้บ่อย ๆ เตียงที่เป็นเหมือนกับจุดเซฟเลยเป็นของสำคัญไม่ต่างอะไรกับไอเทมหรืออุปกรณ์ตัวช่วยอื่น ๆ เลย เพราะหากพลาดตายขึ้นมา อย่างน้อยเราก็จะได้กลับมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัย หลายคนก็ใช้วิธีสร้างเตียงติดตัวไว้ วางไว้ตามจุดต่าง ๆ รายทาง เพราะเกมนี้ขนาดแผนที่ใหญ่มาก ๆ ช่วงหลังการออกสำรวจต้องเดินทางไกล ๆ ต่อให้รถรางช่วยก็ยังไกลอยู่ดี ดังนั้นกันเหนียวไว้ด้วยเตียงอีกต่อจะปลอดภัยกว่า
6. ไม้ คือทรัพยากรสำคัญที่สุดไม่ว่าจะช่วงไหนของเกม
หลาย ๆ เกมอาจจะคิดว่าไม้สำคัญแค่ช่วงแรก แต่กับ Core Keeper นั้น ไม่ใช่ ไม้ถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่สำคัญจริง ๆ ไม่ว่าจะช่วงต้นเกม กลางเกม หรือปลายเกม ในช่วงต้นเกม ไม้เป็นใบเบิกทางสู่อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดเกราะหรือโต๊ะทำงาน ส่วนช่วงกลางเกมจะใช้ในการขยับขยายและตกแต่งบ้าน และยังคงเป็นวัตถุดิบตั้งต้นก่อนจะแปรรูปไปเป็นวัตถุดิบระดับสูง ส่วนในระดับสูงนั้น ใครเป็นสายชอบตกแต่งฐานหรือบ้านตัวเอง ไม้นี่แหละเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริง ๆ ในช่วงแรกเราอาจจะตีจนได้ไม้ 999 ชิ้นหลายช่อง จนรู้สึกรำคาญว่ามันเยอะไปหรือเปล่า เดี๋ยวหลัง ๆ จะรู้เลยว่า ไม้สำคัญขนาดไหนในเกมนี้
7. การผลิตอาหารเป็นสิ่งสำคัญ
ในช่วงแรกเริ่ม เราอาจจะชิลกับการออกผจญภัย สำรวจโลกใต้ดินแบบลืมวันลืมคืน เพราะทุกตัวละครจะเริ่มต้นพร้อมเสบียงติดตัว รวมไปถึงรอบ ๆ ฐานเราก็มีเห็ดให้เก็บกินประทังชีวิตมากมาย แต่อาหารคือสิ่งที่เราควรวางแผนจัดการไว้ตั้งแต่แรก ระหว่างการเล่นเราจะมีโอกาสดรอปเมล็ดพันธุ์ของพืชชนิดต่าง ๆ เพื่อนำมาปลูกได้ โดยมันจะเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารชั้นดี และหากสกิลทำอาหารสูงขึ้นก็จะได้อาหารระดับสูงที่มีโอกาสกินแล้วเพิ่มพลังชีวิตถาวรด้วย รวมไปถึงอาหารจากการปรุงนั้นจะเพิ่มค่าความหิวได้มากกว่าพวกสิ่งของดิบ ๆ ที่ยังไม่ปรุง ดังนั้นถ้าเล่นกันหลายคน เตรียมเชฟไว้เลย 1 คน เพื่อปรุงอาหารแจกจ่ายสมาชิกทีม
8. หายอดนักตกปลาไว้ร่วมทีมสัก 1 คน ถ้าเล่นกับเพื่อน
สานต่อจากข้อข้างบน วิธ๊การหาอาหารที่ดีที่สุดในเกมนี้ หนีไม่พ้นการตกปลา แต่การตกปลาในเกมนี้ใช้เวลาค่อนข้างมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงต้นเกม แต่การตกปลานั้นเป็นสิ่งสำคัญมากในช่วงกลางจนถึงท้ายเกม เพราะมันเกี่ยวโยงกับเรื่องอาหารล้วน ๆ ปลาแต่ละตัวที่เราตกได้ หากนำไปปรุงบนหม้อ อาจจะได้เป็นซุปปลาชนิดต่าง ๆ มากมาย และพื้นที่ตกปลาเองก็มีหลายที่ด้วย แต่ข้อเสียคือในช่วงแรกนั้น การตกปลาจะใช้เวลาค่อนข้างมาก เพราะเรายังไม่เชี่ยวชาญพอ ทำให้การรอปลากินเหยื่อแต่ละทีจะใช้เวลานานมาก แต่ช่วงหลังนั้น คนตกปลาบ่อย ๆ จะจับปลาได้บ่อยขึ้น และถ้าอัปเกรดสกิลไปด้วยก็จะยิ่งตกปลาได้เยอะขึ้นอีก แถมเป็นปลาหายากอีกต่างหาก ดังนั้นถ้าเล่นคนเดียว ต้องยอมลำบากหน่อย แต่ถ้ามีเพื่อนเล่นด้วย หาเพื่อนสักคนไว้ตกปลา แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นจริง ๆ นะ
