รีวิว Chef RPG เมื่อการเปิดร้านอาหาร ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เหมือนที่เกมอื่น ๆ เขาทำ

เกมปลูกผักทำฟาร์ม เราก็ได้เห็นกันมาเยอะแล้ว และทุกเกมล้วนจะต้องให้เราเป็นเกษตรกร ชาวไร่ชาวนา มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นแบบนี้กันวนไปทุกเกม ความพิเศษของ Chef RPG คือ เขียนเนื้อเรื่องให้มันแหวกแนว และน่าสนใจไปเลย แต่นี่ไม่ใช่แค่ส่วนเดียวเท่านั้นที่น่าสนใจ เกมนี้มันยอดเยี่ยมยังไง มาดูกันได้กับ Chef RPG

เชฟผู้ไขว่คว้าหาโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง

ในเกมนี้ ผู้เล่นจะได้เลือกเล่นเป็นตัวละครที่เราสร้างเองขึ้นมาก็จริง แต่ตัวละครจะมีปูมหลัง มีเรื่อวราวย้อนอดีตให้เราได้ติดตามกัน และจุดเด่นในการนำเสนอเนื้อเรื่องของเกมนี้ บอกเลยว่าแตกต่าง แต่ก็ทำให้มันน่าติดตามและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน โดยเกมจะเล่าถึงช่วงที่เราเคยเรียนอยู่ในคลาสของเชฟมือพระกาฬ แต่ด้วยความกดดัน และความคิดที่ว่าตัวเองคงทำไม่ได้ จึงล้มเลิกความตั้งใจ แต่แล้วครูผู้มีพระคุณคนหนึ่งก็ฝากจดหมายมาให้เรา ครูคนนั้นเป็นสุดยอดเชฟของโลกที่เราก็ยังไม่รู้ว่าเรากับครูคนนี้ไปรู้จักกันได้ยังไง (ต้องรอเกมเฉลย) ครูคนนี้ฝากให้เรามาดูแลภัตตาคาร La Sequioa ที่เมืองชายฝั่งริมทะเล White Ash Harbor ภัตตาคารเก่าของครูที่ปิดตัวมานานแล้ว และทันทีที่เราตอบตกลงตัดสินใจ วงการอาหารก็กำลังมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อันก่อเกิดเป็นเรื่องราวของ Chef RPG

ความโดดเด่นในการนำเสนอเรื่องราว ไม่ใช่แค่ให้เราเป็นแค่เชฟทำอาหาร แต่ให้เราเป็นถึงเชฟมากฝีมือ จบการเรียนจากสถาบันสูง ๆ แต่แวดวงของการแข่งขันทำอาหารนั้น ทุกคกน็รู้กันดีว่ามันไม่ใช่ง่าย ๆ แน่ แต่เกมยังไม่ได้เปิดเผยในส่วนนี้มากนัก แต่เรื่องราวจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เพราะภัตตาคารของเราก็โด่งดังและมีชื่อเสียงจนพวกนักวิจารณ์อาหารหันมาให้ความสนใจ และเราต้องจัดการร้านของเราให้พร้อม ซึ่งนี่แหละ เดี๋ยวเราจะอธิบายว่าเกมการเล่นของเกมนี้มันสนุกยังไง แต่ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น ตอนนี้บอกเลยว่า ทำมาได้ดีและน่าสนใจกว่าหลาย ๆ เกมในแนวเดียวกันมากเลยทีเดียว

เรื่องวุ่น ๆ ชวนหัวหมุนของเจ้าของกิจการ

ในเกมนี้เราไม่ต้องทำผัก ทำไร่ ทำนา สิ่งที่ต้องทำอย่างเดียวคือ บริหารกิจการร้านอาหาร La Sequioa ของเราให้เจริญรุ่งเรือง แต่เชื่อหรือไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่าย ๆ เลย และเราจะบอกว่านี่คือเกมที่ใช้สมองและวางแผนบริหารจัดการเยอะกว่าที่เราคิดไว้มาก ๆ ด้วย ช่วงแรกเกมจะใช้เวลาปูพื้นฐานเรานานมาก ๆ เอาว่าอย่างต่ำก็ 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว และทางที่ดี ผู้เล่นไม่ควรจะกด Skip หรือข้าม Dialogue ใด ๆ ไปเลย เพราะทั้งเนื้อหา หรือเบาะแสในการหาไอเทมบางอย่าง จะได้จากการอ่านบทสนทนา อย่างช่วงแรกเนี่ย ถ้าเราจะหาไอเทมบางสิ่งบางอย่าง เราอาจจะต้องจำเอาจากการอ่านบทสนทนาเลยทีเดียว ดังนั้นไม่ควรพลาดที่จะอ่านทุกเนื้อหาของเกมนี้

ร้านอาหารของเราจะตั้งอยู่ด้านซ้ายของเมือง ซึ่งในช่วงแรกจะยังไม่มีอะไรเลย นอกจากตัวร้านโล่ง ๆ แต่เราจะค่อย ๆ ได้รับการเรียนรู้ผ่านระบบต่าง ๆ เช่น NPC ที่ขายของต่าง ๆ ในเมือง และเราสามารถเข้าสู่ Build Mode ได้ เพื่อตกแต่งร้านของเราก่อนที่จะเปิดให้ลูกค้าเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางอุปกรณ์ทำอาหารเช่นเตาไฟฟ้า เครื่องทำอาหาร เครื่องปั่น หรือจะวางของตกแต่งก็จะอยู่ในส่วนของ Build Mode ทั้งหมด เพื่อให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งร้านอาหารของเราได้อย่างเต็มที่

แต่เกมนี้ไม่ได้มีการ Fix หรือบังคับผู้เล่นว่าต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ในเวลานี้ ผู้เล่นเลือกได้อย่างอิสระเลยว่าเวลาไหนอยากจะทำอะไร อยากจะเปิดร้านกี่โมงก็ได้ถ้าพร้อม หรืออยากจะออกไปผจญภัย ตามล่าหาวัตถุดิบในช่วงเวลาไหนของวันก็ได้เช่นกัน จากนั้นเราจะนำวัตถุดิบทั้งหลายที่ล่ามาได้ไปใส่ไว้ในตู้เย็น เพื่อให้พร้อมกับการทำเมนูอาหาร แต่มันก็ไม่ได้ลัดรวดเร็วหรือง่ายขนาดนั้น ก่อนจะเปิดร้านอาหารต้อนรับลูกค้า ผู้เล่นยังมีอย่างอื่นที่ต้องเตรียมตัว โดยใช้เมนูเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงประตูทางเข้าร้านที่เราจะสามารถจัดการทุกอย่างได้ ตั้งแต่การเลือกประเภทร้านเราว่าจะเป็นร้านแบบใด แต่ละแบบนั้นต่างกันด้วย เช่นถ้าเปิดร้านเป็นภัตตาคาร เราจะต้องมีเมนูอาหารจานหลัก 2 เมนูขึ้นไป ถ้าจะเปลี่ยนเป็น Social House หรือร้านนั่งชิลล์ ก็อาจจะต้องมีเมนูเครื่องดื่ม หรือถ้าจะเป็นโรงน้ำชาก็ต้องเน้นเครื่องดื่มและของหวาน คือเราสามารถปรับรูปแบบร้านของเราได้ตลอดเวลา และแต่ละร้านก็จะมีโบนัสที่ไม่เหมือนกันด้วย เลือกให้ดี

นอกจากนั้น ร้านของเรายังจำเป็นจะต้องมีบริกรเสิร์ฟอาหารและเชฟผู้ช่วย เนื่องจากเราคนเดียวรันร้านไม่ได้แน่นอน การจะหาเชฟผู้ช่วยและบริกร ก็ยังคงทำได้จากเมนูคอมพิวเตอร์ โดยทุก ๆ วันในหน้า Recruitment จะมีพนักงานต่าง ๆ มาให้เราเลือกจ้าง เราต้องดูสเตตัสของพนักงานคนนั้นด้วย ว่าเหมาะสมหรือทำงานได้ดีหรือไม่ เช่นบางคนอาจจะมีค่า Social สูง ทำให้ลูกค้าประทับใจได้ง่าย แต่อาจจะไม่ค่อยอึด ทำงานได้แปปเดียวก็เหนื่อย เป็นต้น และยังมี Trait หรือคุณลักษณะติดตัวมาด้วย บางคนสเตตัสอาจจะดี แต่ติด Trait Sloth เสิร์ฟอาหารช้าลง 8% เป็นต้น ยิ่งร้านเราไปสู่ระดับที่สูงขึ้น เราก็อาจจะมีโอกาสเจอพนักงานระดับสูง ซึ่งเราต้องจ่ายค่าซื้อตัวแรกเข้า และจ่ายค่าทำงานรายชั่วโมงที่จะมีบอกไว้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น ดังนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องการเจอพนักงานที่ดี แต่เราต้องคำนวณให้ดีว่า จ้างมาแล้ว ร้านเรามีประสิทธิภาพพอจะทำกำไรได้มากพอจะจ่ายเงินค่าจ้างหรือไม่ด้วย

ส่วนต่อมาคือส่วนของ Service Revenue ที่อันนี้เราจำเป็นจะต้องดูเพื่อให้เห็นภาพรวมของร้าน ทั้งรายได้ ค่าความพึงพอใจจากลูกค้า เพื่อให้เราวางแผนคำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของร้านได้ ต้องบอกเลยว่าสมกับเป็นเกม RPG ของจริง ใครคิดจะซื้อมาเพราะคิดว่ามันเป็นเกมเปิดร้านทำอาหารชิล ๆ บอกเลยว่าปาดเหงื่อแน่นอน

ออกไปตามล่าวัตถุดิบด้วยตัวเอง พร้อม Skill Tree อีกกว่า 30 สกิล

อย่างที่บอก นี่คือเกม RPG ดังนั้นตัวละครของเราก็จะมีระบบเลเวลและความคืบหน้าในค่าสถานะต่าง ๆ เริ่มจากค่า Status เกมนี้จะมีทั้งหมด 4 ค่าด้วยกัน แบ่งเป็น Endurance (ความอดทนและพลังชีวิตกับ Stamina สูงสุด) – Gathering (ความสามารถในการปลูกและการเก็บเกี่ยว) – Cooking (ความสามารถในการทำอาหาร) – Social (ความสามารถในการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกับผู้คน) โดยช่วงแรกที่เกมวางขาย เราทำอะไรก็ได้ เลเวลจะอัพแล้วเอาแต้มไปเลือกอัพเอาเอง แต่หลังจากอัพเดทแพทช์ ทีมงานเปลี่ยนเป็นให้ทำกิจกรรมด้านนั้น ๆ แล้วแต้มมันจะขึ้นมาเอง เล่นง่ายกว่าเดิมพอสมควร

และสิ่งสำคัญของสเตตัสทั้ง 4 คือ มันจำเป็นที่จะต้องใช้ในการอัพเกรดสกิลด้วย เช่นถ้าเกิดว่าเราอยากสานสัมพันธ์กับผู้คนได้เก่งขึ้น เราก็ต้องมีค่า Social ที่มากพอ หรือถ้าเราอยากปรุงอาหารได้เก่งขึ้น มีเมนูอาหารเยอะขึ้น ก็ต้องมีสกิลสาย Cooking ที่เยอะพอ ระบบนี้ทำให้เราจำเป็นจะต้องออกไปทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อทำให้ตัวละครของเราเก่งขึ้น แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ เราก็จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเชฟที่เก่งรอบด้านมาก ๆ ทำอาหารก็เป็น แข็งแกร่งด้วย จีบคนก็เป็นอีก โดยตัวเกมมีสกิลให้เลือกอัพมากกว่า 30 สกิล ที่มีตั้งแต่การชำนาญการทำอาหาร ไปจนถึงสกิลการจัดปาร์ตี้ส่วนตัว เชิญเพื่อน ๆ มาร่วมงานได้เลย

ต้องบอกว่า Chef RPG เป็นเกมที่ดีไซน์ระบบมาได้ยอดเยี่ยมมาก และแม้จะอยู่ในสถานะ Early Access แต่บอกเลยว่า เอาแค่การเปิดร้านอาหารต้อนรับคน บริหารจัดการค่าใช้จ่ายร้าน ก็มากพอที่จะทำให้คุณติดหนึบอยู่กับมันได้หลายสิบชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ตัวเกมวางจำหน่ายแล้วบนระบบ PC ในราคา 400 บาท ใครสนใจไปจัดกันได้เลยวันนี้ผ่านระบบ Steam

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ

Facebook
Twitter
VK

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Follow us

Scroll to Top