รีวิว SINNERS เพลงบลูส์เคล้าความระทึกขวัญที่เข้ากันแบบโคตรลงตัว

หลังจากห่างหายไปถึง 3 ปีเต็ม หลังจากที่ Black Panther: Wakanda Forever เข้าฉาย Ryan Coogler กลับมาอีกครั้งพร้อมนักแสดงคู่บุญ Michael B. Jordan และเปลี่ยนแนวไปทำหนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติกันบ้าง แต่ SINNERS นี้จะออกมาเป็นยังไง เรา Thai Gamers ไปดูแล้วจะขอรีวิวให้ชมกัน

ยุคที่คนผิวดำยังไม่ถูกยอมรับ

ฉากหลังของ SINNERS คืออเมริกาตอนใต้ ช่วงปี 1930 ในตอนนั้นยังคงเป็นยุคที่คนผิวดำยังไม่ได้รับการยอมรับ สองพี่น้องฝาแฝด Smoke และ Stack (รับบทโดย Michael B. Jordan) ที่หลังจากก่อกวีรกรรมไว้มากมาย พวกเขาพยายามกลบฝังเรื่องราวเหล่านี้ และเดินทางกลับมายังบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่พวกเขากลับพบว่าปีศาจร้ายที่กำลังจะกลืนกินทุกสิ่ง

หลายคนอาจไม่ถูกใจนัก ที่ต้องบอกว่า เมสเสจของหนังเรื่องนี้ ยังคงมีการเล่าเรื่องของการเหยียดสีผิว หรือเชื้อชาติอยู่พอสมควร แต่ระหว่างที่ชมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันยัดเยียดอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติตามยุคสมัยและกาลเวลาตามช่วงเวลาที่หนังเลือกเล่าเรื่อง แต่สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือ ถ้าหนังไม่ได้บอกเราแต่แรกเลยว่า เหล่าศัตรูสุดอันตรายคือแวมไพร์ ตั้งแต่ตอนปล่อยตัวอย่าง มันอาจจะเป็นความน่าประทับใจยิ่งกว่านี้ที่ Ryan Coogler เลือกใช้แวมไพร์และโทนหนังสยองขวัญมาบอกเล่าปัญหาของเชื้อชาติและสีผิว แต่ช่วงท้ายของหนัง ประเด็นนี้จะรู้สึกเบาบางลงมาก เพราะโทนหนังเปลี่ยน แต่ถ้าใครดูจบแล้วมาตกผลึกอาจจะคิดได้อีกหลายตลบ

หนึ่งคนแสดงเป็นสอง ความเจ๋งของ Michael B. Jordan

คนที่ดูหนังหรือเป็นคอหนังอยู่แล้ว น่าจะรู้จัก Michael B. Jordan นักแสดงมากฝีมือที่เริ่มแจ้งเกิดมาตั้งแต่หนังเรื่อง Fruitvale Station เมื่อปี 2013 ก่อนที่ผู้ชมจะได้รู้จักเขาในฐานะ Fantastic Four ปี 2015 หรือบท Killmonger ในหนัง Black Panther ในเรื่อง SINNERS นี้ Michael B. Jordan ต้องแสดงเป็นสองตัวละครสองพี่น้องที่อารมณ์ และคาแรคเตอร์แตกต่างกันชัดเจนมาก และเหลือเชื่อที่เขาทำได้ ทุกครั้งที่สองตัวละครนี้อยู่ร่วมซีนเดียวกันก็เห็นภาพได้ชัดเจนว่าคือคนละคน และถึงแม้จะแยกซีนกันอยู่ เขาก็ยังทำให้เราเชื่อว่าเป็นคนละคนกันจริง ๆ ทั้งการแสดงออกทางสีหน้า อารมณ์

ไม่ใช่แค่ Michael B. Jordan เท่านั้น แต่นักแสดงคนอื่น ๆ ก็ถือว่าคุณภาพคับแก้ว ไม่ว่าจะเป็น Hailee Steinfeld ที่ความสวยและการแสดงของเธอมาเป็นของคู่กัน หรืออีกคนที่ฉายแสงไม่แพ้กันเลยคือ Wunmi Mosaku หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อหรือหน้าตาของเธอ แต่คิดว่าหลังจากเรื่องนี้ เธอน่าจะเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ส่วนไฮไลท์ที่มาคู่กันกับ Michael B. Jordan อีกคนคือ Miles Caton ที่เป็นผลงาน Debut เรื่องแรกของเขาเลย เชื่อว่างานนี้อนาคตไกลมาก

อธิบายแบบสรุปสั้น ๆ นักแสดงเรื่องนี้ก็สมแล้วที่เป็นหนังฟอร์มยักษ์ พลังดารา ไม่ว่าจะเบอร์เล็กเบอร์ใหญ่ สะกดทุกสายตาได้แน่ ๆ

เพลงบลูส์ผสมผสานความระทึกขวัญ เหนือชั้นกว่าที่คิด

สารภาพเลยว่าก่อนเข้าไปดู ไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะกลายเป็นหนังเพลง แถมผสมผสานเพลงแต่ละเพลงลงไปในฉากได้เท่แบบล้นเหลือมาก หลัก ๆ แล้ว เพลงที่ SINNERS นำเสนอคือแนวบลูส์ แนวยอดนิยมในช่วงนั้น แต่ก็มีเพลงแนวคันทรีผสมด้วย ใครเป็นคอเพลงบลูส์ ดูหนังเรื่องนี้คุณจะสนุก และประทับใจมากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะต้องยอมรับจริง ๆ ว่า Ryan Cooglers จับแต่ละเพลงมากลมกลืนลงไปในฉากได้อย่างทรงพลัง เหมาะสม และขับดันให้หนังมันเข้มข้นมากขึ้น พร้อม ๆ กันนั้น ในช่วงครึ่งหลังที่กลุ่มตัวเอกต้องวางแผนต่อสู้หรือเอาตัวรอด ยังมีการแทรกเพลงบลูส์เข้ามาเป็นระยะ แต่มันไม่ได้ทำลายอารมณ์หนังเลย กลับกัน ยิ่งทำให้มันเท่ขึ้นไปอีก

ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของหนังเป็นต้นไป เราอยากให้ใครก็ตามที่เข้าไปชม เอ็นจอยกับดนตรีและซาวด์ประกอบของหนังด้วย เพราะหลังจากหนังจุดติดในช่วงครึ่งหลัง นี่คือประสบการณ์ดูหนังเรื่องแรกในรอบ 4 เดือนนับจากต้นปี 2025 ที่ช่วงครึ่งหลังหนังนี่ นั่งหลังไม่ติดเบาะจริง ๆ

SINNERS เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ

Facebook
Twitter
VK

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน

Follow us

Scroll to Top