เฮย ภูตแมวมหัศจรรย์กลับมาอีกครั้งในภาคต่อที่เรารอคอยกันนานกว่า 6 ปีเต็ม แต่ถ้านับในประเทศไทยก็คือ 4 ปี นี่คืออีกหนึ่งผลงานแอนิเมชันจากจีนที่ยกระดับจากซีรีส์ทีวีเล็ก ๆ สู่หนังโรงจนได้มีภาค 2 ภาคนี้มีอะไรดีอะไรเด็ด Thai Gamers จะรีวิวให้ดูกัน
ภารกิจใหม่ของภูตแมวมหัศจรรย์
เพื่อเป็นการเกริ่นให้กับคนที่ยังไม่เคยดูหรือรู้จักภาคแรก โลกของ The Legend of Hei เป็นโลกที่สองเผ่าพันธุ์อย่างเผ่าพันธุ์ภูตและมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน ทำให้เราจะได้เห็นการใช้ชีวิตร่วมกันของโลกยุคปัจจุบันที่มีสมาร์ทโฟน อินเตอร์เน็ต วิถีชีวิตปกติ อยู่ร่วมกับเหล่าภูตที่ออกแนวจีนโบราณยุคเก่า ซึ่งสิ่งนี้ The Legend of Hei ก็ทำการนำเสนอออกมาได้ดีตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ภาคนี้ก็ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม เพราะการได้เห็นสุดยอดวิทยายุทธ์แต่ใส่ชุดไปรเวททั่วไป หรือแม้แต่นาจา เทพผู้ทรงพลัง แต่ติดเกมและมีห้องพักสุดหรูแบบคนยุคปัจจุบันก็เป็นอะไรที่ทำให้คนเข้าถึงและอินได้ง่ายขึ้น
เรื่องราวของ The Legend of Hei 2 จะดำเนินต่อจากภาคแรก หลังจากที่เสี่ยวเฮยตัดสินใจออกเดินทางร่วมกับอาจารย์อย่างอู๋เซียน และไปใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ พร้อมกับฝึกวิชาควบคุมพลังไปด้วย อยู่มาวันหนึ่ง สำนักใหญ่เรียกตัวอู๋เซียนกลับไป พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่าเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการถล่มล้างบางสำนักหลิวสือ เจ้าสำนักทั้งหลายยืนยันให้กักตัวอู๋เซียนไว้ ทำให้การออกตามหาความจริงเป็นหน้าที่ของลูกศิษย์อย่างเสี่ยวเฮย พร้อมด้วยลู่เหย่ ศิษย์คนแรกของอู๋เซียน งานนี้จึงเป็นภารกิจตามหาความจริงที่ศิษย์พี่และศิษย์น้องต้องร่วมมือกัน ก่อนที่สงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าภูตจะเปิดฉากจนกลายเป็นโศกนาฎกรรม
ในแง่ของเนื้อเรื่อง The Legend of Hei ยังคงใช้บทแบบปกติ เล่าเรื่องในแบบที่เคยเล่าจากสื่ออื่นมาแล้ว ดังนั้นใครคาดหวังความสดใหม่ ล้ำลึกของตัวบท อาจจะไม่ถูกใจตรงนี้ แต่อย่าลืมว่าบทดีแค่ไหน ถ้าเล่าเรื่องไม่ดี มันก็ขาดความน่าสนใจ ซึ่ง The Legend of Hei 2 ได้ตรงนี้ไปเต็ม ๆ
การเติบโตของตัวละคร และการเซอร์วิสแฟนแบบเต็มอิ่ม
จุดสำคัญของ The Legend of Hei 2 คือการเล่าเรื่องธรรมดาให้สนุก สอดแทรกมุกตลกและความบันเทิงแบบเต็มพิกัดเข้าไป ในภาคนี้เราจะไม่ได้เห็นเสี่ยวเฮยที่ยังเป็นเด็กน้อยคุมพลังไม่ได้ แต่เราจะได้เห็นเสี่ยวเฮยในเวอร์ชันที่โตขึ้น รับรู้เรื่องราวมนุษย์กับภูตมากขึ้น แต่เขาก็ยังไม่โตพอที่จะต้องตัดสินใจในเรื่องแยก ๆ หรือแบ่งแยกดีเลวแบบร้อยเปอร์เซน นั่นทำให้การเดินทางกับลู่เหย่ผู้เป็นศิษย์พี่ มีความสนุกและน่าติดตาม ปน ๆ ไปกับความน่ารัก เพราะตัวละครลู่เหย่เอง บ่อยครั้งก็เป็นแค่คนปากแข็งที่เป็นห่วง แต่ไม่ค่อยแสดงออก
กลับกันด้วยโครงเรื่องที่ใหญ่ขึ้น ในภาคนี้เราจะได้เห็นตัวละครใหม่ปรากฎตัวออกมามากมาย โดยเฉพาะทางฝั่งสำนักภูตที่มีเจ้าสำนักสาขาต่าง ๆ ออกมามากมาย แต่ตรงนี้น่าเสียดายอยู่บ้างที่บางตัวละคร หรือเจ้าสำนักบางสำนัก ปรากฎตัวมาแปปเดียวแล้วหายยาวไปเลย คิดว่าคงไม่สามารถเกลี่ยบทให้เท่า ๆ กันได้ เลยเลือกที่จะออกมาแค่แสดงตัวแล้วหายไปเลยมากกว่า แต่ถ้ามีภาคต่อ ไม่แน่ว่าก็อาจจะกลับมากันได้ทั้งหมด
ในส่วนที่ชอบน่าจะเป็นเรื่องของการเติบโตของตัวละครเสี่ยวเฮยและลู่เหย่ เสี่ยวเฮยนั้นเราเห็นการเติบโตจากภาคแรกไปแล้ว ในภาคนี้เราจะได้เห็นเขาออกผจญภัย ทำภารกิจ ในขณะที่ลู่เหย่ ตัวละครใหม่ที่เพิ่งปรากฎตัวในภาคนี้ ก็จะมีการเล่า Backstory ที่น่าสนใจ และชวนซึ้งมาก ๆ แนะนำว่าไม่ควรพลาดการชมในโรงภาพยนตร์
และดูเหมือนว่านาจา จะเป็นตัวละครเทพที่ทุกคนในจีนชื่นชอบกันมาก นอกจากจะมีหนังเดี่ยว มีแอนิเมชันของตัวเองออกมานับไม่ถ้วน นาจายังเป็นหนึ่งในตัวละครสมทบที่ออกมามีบทบาทตั้งแต่ภาคแรก และภาคนี้เขายังได้เปิดฉากต่อสู้ โชว์ของ สุดเท่ร่วมกับอู๋เซียน เป็นการเซอร์วิสแฟนและให้ความเคารพตัวละครอย่างนาจาว่า ตัวละครนี้สุดยอดแค่ไหนในจีนแผ่นดินใหญ่
นอกจากนั้น สิ่งที่ยกระดับขึ้นจากภาคแรกคือฉากแอ็คชันที่รวดเร็ว สะใจ แถมยังใส่ซีนใหญ่ ๆ มาหลายซีน และให้ทุกตัวละครได้โชว์ของกันอย่างเต็มที่ ทำให้หนังภาคนี้ ดูแล้วไม่น่าใช้ชื่อ The Legend of Hei เพราะมันมีหลายตัวละครมาก ๆ ที่โดดเด่นแถมแย่งซีนน้องเสี่ยวเฮยแบบสุด ๆ
สำหรับแฟน ๆ แอนิเมชันจีน ต้นปีเราได้ Nezha 2 และสิ้นปีเราได้เสี่ยวเฮย 2 ถือเป็นปีทองของแอนิเมชัน และแฟน ๆ ชาวไทยที่โชคดีได้ดูกันในบ้านเรา
The Legend of Hei 2 มีกำหนดเข้าฉาย 16 ตุลาคม 2025 นี้ แฟน ๆ อย่าลืมไปสัมผัสประสบการณ์กันได้ในโรงภาพยนตร์
