จัดเป็นอีก DLC หนึ่ง ที่ Thai Gamers คิดว่าแฟนๆ Two Point ต้องจัด
เพราะเข้ามาเสริมเกมให้ดูสนุกขึ้นเยอะเลย !!
โดย Zooseum นี้ จะให้เราได้ดูแลเหล่าสัตว์ เหมือนเปิดสวนสัตว์ขนาดย่อม
ที่จริงๆ แล้ว ระบบมันก็คล้ายๆ กับเนื้อหาในส่วนของ Marine Life หรือพิพิธภัณฑ์โซนสัตว์น้ำที่เราเล่นได้ ในตัวเกมหลักนั่นแหละ
แค่ใน Zooseum นี้มีรายละเอียดเยอะกว่า โดยเฉพาะระบบดูแลสัตว์ , การจัดบ้านให้พวกมัน , ระบบผู้เชี่ยวชาญ และ ระบบอื่นๆ อีกนิดหน่อย
ไม่รอช้า เรามาเริ่มรีวิวและเล่าให้ฟังกันไปทีละส่วนเลยละกัน !!
ระบบที่ใช้รีวิว : PC (Steam)
ใน Zooseum นี้ เราจะได้จัดโซนแสดงในพื้นที่ สวนซิลเวอร์บอตทอม (Silverbottom Park)
มีผู้เชี่ยวชาญกลุ่มใหม่ นั่นคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ (Wildlife Expert) ที่สามารถดูแล รักษา และจัดการอารมณ์ของเหล่าสัตว์ในพิพิธภัณฑ์ของเราได้
และเราจะได้ส่งกลุ่มคนงานของเราไปลุยในแมปใหม่ นั่นคือ หมู่เกาะไกลโพ้น (Farflung Isles)
ที่เราจะได้สัตว์ต่างๆ หลายประเภทกลับมา เช่น นก แมลง สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ขนาดใหญ่
แล้วก็ยังมีสัตว์หายากที่ต้องส่งสำรวจหลายๆรอบ กว่าจะเจอด้วย
และยังมีระบบจัดแสดงแบบใหม่ สำหรับแสดงสัตว์ ที่แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
ตู้เทอร์ราเรียม (Terrarium) บ้านสำหรับสัตว์เล็ก และ ถิ่นที่อยู่ (Habitat) บ้านสำหรับสัตว์ใหญ่
โดยที่ตู้ Terrarium เราต้องสร้างเองจาก Workstation ซึ่งจะมีขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ให้เราเลือกสร้าง
ยิ่งขนาดของตู้ใหญ่เท่าไหร่ ก็จะใส่สัตว์ได้มากขึ้น
แต่ Habitat จะเป็นเหมือนห้องขนาดใหญ่ที่วางกลางแจ้งได้ ที่เราสามารถกำหนดขนาดได้เองเลย
ยิ่งสร้างพื้นที่ใหญ่ ก็จะใส่สัตว์ได้เยอะขึ้น และยังวางสิ่งของตกแต่งให้เข้ากับนิสัยสัตว์ได้ อย่าง โขดหิน, พุ่มไม้
การใส่สัตว์ลงไปในบ้านของมันก็มีเงื่อนไขด้วย
เช่น ห้ามใส่แมลงร่วมกับสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด เพราะจะโดนงาบ หรือห้ามเอาสัตว์กินเนื้อไปอยู่กับสัตว์กินพืช เพราะสัตว์กินพืชอาจโดนซวบได้
รวมถึงยังมีระบบ การไม่ถูกกัน ที่ถ้าพวกมันไม่ชอบเพื่อนร่วมบ้าน มันจะเริ่มทำพฤติกรรมก้าวร้าวด้วย !
ในส่วนของการจัดบ้านให้พวกเหล่าสัตว์ต่าง ๆ ยังมี ธีม มาเพื่อเพิ่มความยุ่งยากให้เราอีก
เช่น ธีมป่า ธีมทะเลทราย ธีมถ้ำ ธีมหิมะ
ซึ่งแต่ละธีมก็จะใส่สัตว์ได้เฉพาะที่เข้ากับสิ่งแวดล้อมของมัน
จะเอาสัตว์โซนหิมะไปอยู่ทะเลทรายไม่ได้ ถ้าใส่ผิดธีม สัตว์จะเครียดและเสี่ยงที่จะขิตเอาง่ายๆ
สัตว์ที่เราได้มาเนี่ย มาพร้อมความน่ารักน่าเอ็นดู
พวกมันจะเดินเล่น โชว์ท่าทางต่างๆ ให้ผู้เข้าชมเห็น เช่น
เจ้ายีราฟคอยาว ที่เดินหมุนคอไปมาแบบดึ๋งๆ น่ารักๆ
พวกเหล่าสัตว์ยังเหมือนเป็นพนักงานของเราด้วย เพราะพวกมันแต่ละตัวจะมีความสามารถติดตัว ที่ก็มีทั้งด้านบวก และด้านลบ
เช่น หิวง่าย ชอบทำให้ผู้เข้าชมมีความสุข ชอบขยายพันธุ์ หรือชอบแกล้งคนงานของเรา
และยังมีระบบใหม่ ที่เสริมมาให้เหล่าสัตว์ของเราดูมีมิติยิ่งขึ้นไปอีก ก็คือ พวกมันจะมีผู้เชี่ยวชาญคนโปรดของตัวเองด้วย
โดยที่ผู้เชี่ยวชาญคนโปรดจะช่วยทำให้เหล่าสัตว์อารมณ์จะดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด
แต่ถ้าผู้เชี่ยวชาญคนโปรดของมันหายไป พวกมันก็จะคิดถึง
มีระบบแบ่งเพศ เป็นเพศผู้-เพศเมีย รวมถึงการผสมพันธุ์สัตว์ ที่ทำให้เราได้ลูกสัตว์ตัวใหม่ๆ เข้ามาจัดแสดง
และถ้าเราได้สัตว์ชนิดเดิมมาเยอะๆจนล้น ไม่มีที่ให้ใส่แล้ว
พิพิธภัณฑ์โซนเก่าๆ เรายังเอาพวกตัวซ้ำๆ ไปเข้าตู้วิจัย เพิ่มความรู้ของของแสดงชิ้นนั้นๆได้
แต่พิพิธภัณฑ์โซนสัตว์ป่านี้ ทำไม่ได้แล้วนะ
สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวก็คือ ปล่อยพวกมันคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อให้พวกมันไปพัฒนาถิ่นที่อยู่อาศัย ช่วยทำให้เราสามารถเจอตัวที่คุณภาพดีขึ้นได้
ซึ่งการปล่อยพวกมันกลับไป นอกจากจะเป็นการพัฒนาถิ่นที่อยู่ของพวกมันแล้ว เราก็จะได้แต้มศูนย์อนุรักษ์ (Sanctuary Points) กลับมาด้วย
โดยที่เราสามารถใช้แต้มศูนย์อนุรักษ์ ไปแลกรับสัตว์ตัวใหม่ๆ มาดูแลได้อีกที
จัดเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาสัตว์หายากที่สะดวกขึ้นมาก
ย้อนกลับมาที่ส่วนการเพิ่มความรู้ของพวกเหล่าสัตว์ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์โซนสัตว์ป่านี้
จะทำได้โดยการดูแลพวกมันโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ที่มีสกิลเฉพาะทางเท่านั้น
ซึ่งก็ตอบโจทย์นะ เพราะอย่างโซนเก่าๆ ที่เราต้องเอาของซ้ำๆไปเข้าเครื่องวิจัย
ที่มันเหมือนกับเป็นการทำลายของชิ้นนั้นหรือสิ่งมีชีวิตตัวนั้นๆไปเลย
…ใช้การดูแลเพื่อเพิ่มความรู้แบบนี้ ลดความรู้สึกโหดร้ายในจิตใจได้นิดหน่อย ฮ่าฮ่า
และที่สำคัญคือ DLC นี้ จะทำให้การเล่นโดยรวมของการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ ดูซับซ้อนขึ้นและยากขึ้นด้วยนะ
เพราะเหล่าสัตว์พวกนี้ ต้องการการดูแลที่ละเอียดกว่าพิพิธภัณฑ์โซนอื่นๆ
เช่น การจัดพื้นที่, การทำความสะอาด, ความปลอดภัย และอารมณ์ของพวกมัน
จึงก็อาจทำให้คนที่เคยเล่นพิพิธภัณฑ์โซนอื่นแบบชิลๆ แต่พอมาเล่นพิพิธภัณฑ์สัตว์ป่านี้ เริ่มรู้สึก “หืดขึ้นคอ” ได้เหมือนกัน
เพราะบางที แค่คนดูแลไม่พอ จัดวางส่วนต่างๆไม่ดี ก็อาจทำให้เกิดปัญหาหนักมาก เช่น เหล่าสัตว์ขิตกันหมดยกบ้าน…
สรุปโดยรวม
DLC : Zooseum นี้ คือดีย์ สนุก ปั่น วุ่นวาย และมีความสดใหม่
เหมาะกับคนที่อยากลองอะไรใหม่ๆ ต้องการความท้าทาย
หรือคนรักสัตว์ เพราะพวกน้องๆสัตว์ต่างๆ น่ารักจริงๆ ^^
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะสอยดีไหม
ในเกมภาคหลัก มีให้ลองเล่นธีมสัตว์ป่านี้แบบเบื้องต้นด้วยนะ
ถ้าเล่นแล้วรู้สึกว่า “เอาอยู่” ไม่หนักเกินไป
ค่อยสอยตัว DLC มาทีหลังก็ได้
Two Point Museum : Zooseum เล่นได้แล้วบน PC, PS5, Xbox Series X|S
ส่วนบน Switch 2 รอเล่นได้ในปี 2026
(ตัวเกมหลัก เล่นได้ในทุกระบบแล้วนะ ชาว Switch ก็สามารถเล่นเกมเต็มระหว่างรอ DLC ได้เลย)
