รีวิว Kandria เกมอินดี้ทุนจำกัด แต่ใจสู้ แม้ไม่แตะมาตรฐานคำว่าสนุก

ต้องบอกเลยว่าท่ามกลางเกมฟอร์มยักษ์ที่มีออกมาวางจำหน่ายแทบจะทุกสัปดาห์ ทุกเดือนแบบนี้ เป็นการยากเหลือเกินที่จะมีพื้นที่ว่างให้กับเหล่าเกมอินดี้ หรือนักพัฒนาเกมอิสระ ซึ่งเราก็บังเอิญไปเจอเข้ากับเกมเกมหนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าทุนในการพัฒนา และความสามารถจะจำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน แต่พวกเขาก็มีความตั้งใจ และพยายามส่งมอบเกมนี้ออกมา กับเกมที่มีชื่อว่า Kandria

Kandria ว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ล่มสลายลงเพราะภัยธรรมชาติ มนุษย์เหลืออยู่เพียงน้อยนิด แต่ก็ยังอาศัยอยู่กันได้ ด้วยการใช้จักรกล และเครื่องไม้เครื่องมือในการหาน้ำ และอาหารดำรงชีพ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ถูกมนุษย์เก็บมาได้ และต้องช่วยเหลือมนุษย์เหล่านี้ในการหาทรัพยากรและเอาตัวรอด

จุดเด่นของ Kandria อย่างแรก เราอาจจะต้องชมในเรื่องของความพยายามในการพัฒนาเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ช่วงเข้าเกม หน้าเมนู อินเตอร์เฟส เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทีมงานเกมนี้มีงบที่ค่อนข้างจำกัดมาก และต้องพยายามจัดสรรปันส่วนให้ดี เพื่อนำมาสร้างเกมนี้ และยังเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างทะเยอทะยานด้วยการเป็นเกม Open World ด้วย แต่มันจะไม่ใช่ Open World แบบ Full 3D Scale แต่เป็นแบบ Side Scrolling แทน ทำให้นิยามของคำว่า Open World ในเกมนี้ มันดูจะไปทาง Metroidvania มากกว่า

หน้าที่หลัก ๆ ของผู้เล่นในเกมนี้เลยคือการตามพาร์ทเนอร์ที่เป็นมนุษย์ออกไปสำรวจโลกกว้าง โดยมีทั้ง Storyline ด้านเนื้อเรื่อง เป็นภารกิจหลักให้เราทำตาม เพื่อปลดล็อคเนื้อเรื่องช่วงต่อไป ที่จะเริ่มต้นจากการช่วยเหลือสองพ่อลูกในการสืบค้นพื้นที่ เพื่อซ่อมแซมปั๊มน้ำ ก่อนการผจญภัยครั้งนี้จะพาเราไปพบเจอกับตัวละครใหม่เรื่อย ๆ และที่เป็นจุดเด่นอีกจุดเลยคือ การเลือกถาม-ตอบ ที่เกมนี้สามารถตอบได้หลายแบบ และก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามมา แม้จะไม่ส่งผลกระทบกับเนื้อเรื่องมาก แต่ก็ถือว่าทำได้น่าสนใจ สำหรับทีมทำเกมอินดี้ ที่สำคัญคือภาษาของเกมนี้นั้น ไม่ได้ยากจนเกินไป ใครที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษแค่เบื้องต้น ก็พอที่จะเล่นแบบเข้าใจเนื้อหาได้อยู่

ระบบเกมการเล่นของเกมนี้ ก็ถือว่าพยายามใส่ความหลากหลายของตัวเองลงไปด้วย โดยตัวเกมมีทั้งความเป็น Action ความเป็น RPG ตัวละครของเราจะมีระบบเลเวล มีค่าประสบการณ์ มีค่าพลังต่าง ๆ เพียงแต่มันจะไม่มีเมนูบ่งบอกค่าพลังอะไรทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแสดงออกมาผ่านทางเมนูที่แสดงผ่านตัวหนังสือ และตัวเลขล้วน ๆ ทำให้มันอ่านยาก ดูยากเอาเรื่อง และบอกเลยว่า ใครที่คุ้นชินกับเกมสมัยใหม่ เจอเกมนี้ไป รับรองว่าไปไม่เป็นกันแน่ ๆ แถมตัวเกมมันยังบอกค่าเวลาที่ไม่ค่อยจะจำเป็น เช่น เวลาการเดินทาง อะไรพวกนี้

ไม่ใช่แค่หัวใจสำคัญที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Text แต่พวกเมนูต่าง ๆ แม้กระทั่งไฟล์เสียง ช่องเก็บของก็ใช้วิธีการถ่ายทอดแบบนี้ และใช้กราฟิกแบบ 8-Bit ในการบอกเล่าภาพของไอเทมแทน เห็นก็รู้เลยว่าพวกเขาพยายามจะผลักดันตัวเกมออกมาให้ได้จริง ๆ ทั้ง UX/UI ก็ใช้วิธีการทำให้มันเรียบง่ายที่สุด และดูง่ายที่สุด แต่ถ้าเอามาเทียบกับมาตรฐานเกมอินดี้ก็ถือว่ายังย่ำแย่กว่ามาก แถมตัวเกมยังมีความยาวเพียง 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็จบเกมแล้ว เรียกได้ว่าสั้นกันแบบสุด ๆ

ในด้านระบบการต่อสู้ เราสามารถโจมตีได้ถึงสองแบบคือคลิกซ้าย / ขวา ที่เปรียบเสมือนการโจมตีเบาและโจมตีหนัก แต่ความหลากหลายของศัตรูนั้นไม่ได้เยอะมากเท่าไรนัก เอาแค่การโจมตีสองแบบนี้ช่วงแรกก็ถือว่าสบายแล้ว และช่วงกลางเกมไปจนถึงท้ายเกมก็ไม่ได้ต่างกันมากสักเท่าไรนัก แต่ที่เป็นปัญหาจริง ๆ เลยคือเรื่องการออกแบบฉาก และการควบคุมที่มองว่ามันทำได้ไม่ดีนัก คือการใช้ปุ่มควบคุมมันมั่วไปหมด ไม่เข้ากับเกมการเล่นในสมัยปัจจุบันเอาซะเลย และปฏิเสธไม่ได้ว่ากลิ่นอาย เนื้อหาของตัวเกมนั้น มันเบาบางมาก ๆ ถ้าเทียบกับเกมอื่นที่มีราคาเท่ากัน แม้จะต้องชื่นชมในส่วนของความพยายาม แต่เราหนีความจริงไม่ได้ว่า Kandria นั้น แค่พยายามอย่างเดียว มันไม่เพียงพอ

ทุนสร้างที่จำกัด ไม่ได้จำกัดความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มาออกเอาในยุคนี้ มันไม่ได้มาตรฐาน

ใครที่อยากลอง Kandria สามารถหามาเล่นกันได้บน Steam วันนี้ ในราคา 289 บาท

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ

Facebook
Twitter
VK

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Follow us

Scroll to Top