ยินดีต้อนรับสู่น็อกซัส
- เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมนี้ อิทธิพลแห่งน็อกซัสจะถาโถมเข้าสู่สังเวียน Summoner’s Rift ที่จะมาพร้อมกับงานอาร์ตใหม่ รวมถึงเพลง สิ่งปลูกสร้าง และเป้าหมาย Objective ตัวใหม่ภายในเกมชื่อว่า: Atakhan ผู้นำพาหายนะ
- Atakhan จะเกิดในนาทีที่ 20 ที่ฝั่งเลนบนหรือฝั่งเลนล่างของแผนที่ โดยจะเลือกเกิดจากหนึ่งในสองร่างที่ต่างกันไป นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบแผนที่แบบถาวร และมอบบัฟถาวรให้กับทีมที่สามารถโค่นล้มมันลงได้
- เพิ่มสิ่งต่าง ๆ อย่างเช่น รูนใหม่, ไอเทมใหม่, การเปลี่ยนแปลง Teleport และระบบใหม่ที่มีชื่อว่า Feats of Strength ที่จะทำให้คุณเข้าถึงรองเท้าโฉมใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
- จากที่ประกาศไปในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในปีนี้เราจะมีการรีเซ็ตแรงค์เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 9 มกราคม เวลา 12:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของภูมิภาคต่าง ๆ
- ซีซั่น 1 จะเกิดขึ้นเป็นจำนวน 8 แพตช์ และจะแบ่งออกเป็น 2 Act ซึ่งในแต่ละช่วงจะมีแบทเทิลพาสเป็นของตัวเองที่จะมอบรางวัลตามธีมประจำ Act ให้ ประกอบไปด้วยสกิน กรอบ และอื่น ๆ
- วิดีโอซีเนมาติกสำหรับซีซั่น 1 ปี 2025 ที่มีชื่อว่า “ยินดีต้อนรับสู่น็อกซัส” ได้เปิดตัวไปแล้วเมื่อวานนี้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับเพลงประกอบออริจินัล “Bite Marks” ขับร้องโดย TEYA
Mel เงาสะท้อนแห่งจิตวิญญาณ
- Mel Medarda ตัวละครที่ผู้เล่นน่าจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วใน Arcane จะเข้ามาเป็นแชมเปี้ยนในเกมที่สามารถเล่นได้ในแพตช์ถัดไปของซีซั่นนี้ Mel จะมาพร้อมกับการแต่งกายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมชาวน็อกซัส สะท้อนให้เห็นถึงการโอบรับมรดกและพื้นเพชาวน็อกซัสของเธอที่เกิดขึ้นในช่วงตอนจบของ Arcane ซีซั่นสุดท้าย ซึ่งการมาของเธอนั้นยังพาเกมเพลย์แบบใหม่มาสู่เกมด้วยซึ่งก็คือ การสะท้อนโปรเจกไทล์ สกิล Rebuttal จะทำให้เธอสามารถสะท้อนสกิลแบบเล็งเป้ากลับไปยังคนที่ร่ายสกิล รวมถึงจะสะท้อนสกิลแบบไม่เล็งเป้ากลับไปยังเส้นทางที่เป้าหมายร่ายสกิลมาอีกด้วย
- เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการเปิดตัวซีซั่นแห่งน็อกซัส Mel จะสามารถปลดล็อกได้ฟรีผ่านการทำหนึ่งในภารกิจประจำซีซั่น
- ผู้เล่นสามารถสำรวจเรื่องราวปูมหลังของเธอต่อไปได้ผ่านนิยายเรื่อง Ambessa: Chosen of the Wolf ที่จะปล่อยในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ส่วนขยายแบบเล่าเรื่อง
- เมื่อซีซั่น 1 ดำเนินไปแล้ว จะมีส่วนขยายแบบเล่าเรื่องตามธีมภายในเกมเกิดขึ้นอีกด้วย เช่น Reckoning Pit of Noxus ที่จะเข้ามาสู่ League of Legends คล้าย ๆ กับเกมในโหมด Arena โดยจะเข้ามาในช่วง Act 2 พร้อมด้วยการปล่อยสื่อนอกเกมประเภทต่าง ๆ เช่นมินิเกม และการ์ตูนภาพเคลื่อนไหว
- มินิเกมใหม่จะเปิดตัวในช่วงหลังของซีซั่นนี้ โดยมุ่งเป้าให้มินิเกมนี้สามารถทำให้โลกของรูนเทอร์ราลุกขึ้นมามีชีวิต และเชื่อมโยงประสบการณ์ภายในเกมและนอกเกมให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
- การอัปเดตรูปลักษณ์ของ LeBlanc จะปล่อยตัวในซีซั่นนี้ และจะตามมาด้วยการอัปเดตให้กับแชมเปี้ยนอีกหนึ่งตัวในช่วงหลังของปีนี้
- นอกจากนี้ ทีมงาน League of Legends ยังเปิดเผยอีกว่าธีมประจำซีซั่นนั้นจะเป็นตัวเปิดทางสู่จักรวาลคู่ขนานนอกเหนือจากจักรวาลรูนเทอร์หลักอีกด้วย
ของตกแต่ง
- ซีซั่น 1 จะมีการปล่อยสกินหลายชุดที่จะโฟกัสไปที่น็อกซัสเป็นหลัก โดยสกินเซ็ตแรกนั้นจะมาในชุดที่มีชื่อว่า Masque of the Black Rose ประกอบด้วย: Masque of the Black Rose Samira, Masque of the Black Rose Renata Glasc, Masque of the Black Rose Ezreal, Masque of the Black Rose Vladimir, Masque of the Black Rose Elise และ Prestige Masque of the Black Rose Katarina
- สกินเหล่านี้จะเป็นสกินรางวัล Battle Pass ชุดแรกของซีซั่น สกิน Elise จะสามารถรับได้จากพาสฟรี สกิน Samira, Renata Glasc และ Vladimir จะสามารถรับได้จากพาสเวอร์ชันเสียเงิน โดยที่สกิน Katarina เป็นรางวัลหลักระดับ Prestige สำหรับ Act 1 ของ Battle Pass สกิน Ezreal จะสามารถซื้อได้โดยตรง
- สกิน Prestige สำหรับ Katarina และ Darius จะสามารถรับได้จาก Battle Pass ของแต่ละสกิน ในขณะที่สกิน Prestige ที่กำลังจะมาสำหรับ Cassiopeia และ Qiyana จะสามารถเป็นเจ้าของได้ผ่าน Mythic Essence
- นอกจากสกินเฉพาะของซีซั่น 1 แล้ว ธีมสกินสุดโปรดของใครหลายคนอย่าง Cafe Cuties ก็จะกลับมาอีกครั้ง อีกทั้งจะมีการเปิดตัวธีมสกินโฉมใหม่เกิดขึ้นอีกด้วย
- จะมีการมอบสกิน Victorious เกิดขึ้น 3 ครั้งในปีนี้ โดยแต่ละสกินจะมีธีมเป็นของตัวเองซึ่งจะไม่ยึดโยงตามซีซั่นที่สกินเหล่านี้ปล่อยออกมา
- Radiant Serpent Sett จะเปิดตัวในฐานะสกินระดับ Exalted สกินแรกประจำซีซั่น เพื่อเฉลิมฉลองให้กับปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) ส่วนสกินระดับ Exalted ลำดับที่สองของซีซั่นนั้นจะเป็นคิวของ Mordekaiser ซึ่งจะมาพร้อมกับธีมสุดเฉพาะที่จะประกาศให้ทราบกันอีกครั้งต่อไป
อีสปอร์ต
- การแข่งแบบ Fearless Draft ซึ่งเป็นระบบการดราฟต์ตัวที่จะแบนแชมเปี้ยนที่เล่นไปแล้วในเกมก่อนหน้ากับการแข่งขันแบบ Best-Of นั้น จะทำการเปิดตัวใน Split 1 เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมแข่งได้ระดมความคิดสร้างสรรค์และดึงความสามารถในการพลิกแพลง
- ทัวร์นาเมนต์ First Stand ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10-16 มีนาคม ที่ LoL Park กรุงโซล ประเทศเกาหลี จะเป็นการแข่งขันแบบ Best-Of ระหว่างทีมชั้นนำจาก Split 1 โดยทีมเหล่านี้จะมาแสดงฝีมือให้ชมบนเวทีระดับนานาชาติกับการเล่นช่วงเปิดซีซั่นของ LoL Esports ทีมที่ชนะการแข่งขันนี้จะได้ครองสิทธิ์ลำดับที่สองประจำภูมิภาคในการแข่งขัน MSI 2025 ซึ่งเปิดโอกาสให้ทีมดังกล่าวได้เข้าสู่รอบ Bracket โดยทันที
- MSI 2025 จะจัดที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึง 12 กรกฎาคม ส่วนการแข่งขัน Worlds 2025 จะจัดขึ้นทั่วเมืองที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน โดยจะเปิดสนามกันในรอบ Play-In และ Swiss ที่กรุงปักกิ่ง ตามด้วยรอบก่อนรองชนะเลิศและรองชนะเลิศที่นครเซี่ยงไฮ้ และสิ้นสุดที่รอบชิงชนะเลิศที่เมืองเฉิงตู
- First Stand ปี 2026 จะจัดขึ้นที่ประเทศบราซิล ตามด้วย MSI ที่ประเทศเกาหลี และ Worlds ที่ทวีปอเมริกาเหนือ First Stand ปี 2027 จะจัดขึ้นที่ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วน MSI จะหวนคืนสู่ทวีปยุโรป และ Worlds จะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลี
โหมดเกม
- All Random URF จะเปิดให้เล่นกันในช่วง Act 1 ส่วน Act 2 จะเป็นการกลับมาของโหมด Arena ที่จะมาพร้อมกับการอัปเดตสไตล์น็อกซัสกับแผนที่ในแบบสังเวียนของกลาดิเอเตอร์ภายใต้ธีมของน็อกซัส ซึ่งจะมีกลไกประจำแผนที่เป็นของตัวเอง
- นอกจากนี้จะเปิดตัวระบบที่มีชื่อว่า Guests of Honor ทั่วทั้งแผนที่ Arena อีกด้วย โดยระบบนี้ผู้เล่นจะสามารถโหวตให้กับแชมเปี้ยนน็อกซัสคนใดก็ได้ที่พวกเขาอยากให้มาปรับแต่งกฎการเล่นในแต่ละเกม แถมยังมีไอเทมและ Augment ใหม่เพิ่มเข้ามาใน Arena อีกด้วย ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงแผนที่อย่าง Koi Pond ตามข้อเสนอแนะที่ผู้เล่นส่งกันเข้ามา
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.leagueoflegends.com/th-th/ และติดตามพวกเราบนช่องทางโซเชียลได้ที่ facebook.com/Leagueoflegendsth และ instagram.com/leagueoflegendsth กันเอาไว้ได้เลย
