รีวิว Ratchet & Clank: Rift Apart การผจญภัยทะลุมิติของสองจิ้งจอกและจักรกล

หนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของ PlayStation 5 มาถึงชาว PC แล้ว แต่บนเวอร์ชั่น PC นี้จะมีอะไรยอดเยี่ยมบ้าง มาดูรีวิวจากเรา Thai Gamers กันจ้า

สำหรับ Ratchet & Clank: Rift Apart เป็นเกมภาคต่อจาก Ratchet & Clank บน PS4 และเป็นเกมหลักภาคที่ 9 แล้ว โดยเรื่องราวในภาคนี้ เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน Into the Nexus หลังจากที่ทั้ง Ratchet & Clank กำลังได้รับการเชิดชูเกียรติในฐานะฮีโร่ของจักรวาล Clank ได้บอกกับ Ratchet ว่า ตอนนี้เขาซ่อมแซม Dimensionator เสร็จแล้ว ทำให้สามารถเปิดรอยแยกไปยังมิติอื่น ๆ ได้ และสามารถตามหา Lombax เผ่าพันธุ์เดียวกันกับ Ratchet ได้แล้ว รวมไปถึงอาจจะตามหาครอบครัวของเขาเจอด้วย

แต่ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อ Dr.Nefarious บุกเข้าโจมตีขบวนพาเหรด และพยายามที่จะขโมยเครื่อง Dimensionator ในระหว่างการต่อสู้ชุลมุนวุ่นวายนั้น Ratchet เผลอไปโจมตีโดน Dimensionator เข้า จนทำให้เกิดรอยแยกระหว่างมิติแบบสุ่ม ทั้ง Ratchet, Clank และ Dr.Nefarious ถูกส่งตัวไปยังจักรวาลอื่น ๆ และสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างอวกาศและเวลา ทั้ง 3 แยกย้ายกันไปคนละที่ และ Clank บังเอิญไปเจอกับเผ่าพันธุ์ Lombax ที่ชื่อ Rift เข้า การผจญภัยของ Ratchet และ Clank จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

ต้องบอกว่าใครที่คุ้นเคยกับ Insomniac Games มาก่อนแล้ว จะรู้ดีว่าทีมนี้เขาทำเกมแอ็คชั่นได้อย่างจัดจ้านมาก ๆ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมทำเกมค่ายนี้คือ การทำฉากเปิดที่ตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งพวกเขาทำได้มาตั้งแต่ Marvel’s Spider-Man แล้ว พอมาเกมนี้ พวกเขาก็ยังทำได้อีก สำหรับฉากเปิดของเกมนี้จะโยนผู้เล่นใส่ระบบเกมเพลย์การต่อสู้และการเล่นผาดโผนที่จะกระตุ้นให้ผู้เล่นอยู๋กับเกมต่อ รวมไปถึงเนื้อหาที่ทำออกมาได้น่าสนใจด้วย แม้ไม่ใช่แฟน ๆ ของ Ratchet & Clank มาก่อนก็ตาม

สำหรับรูปแบบเกมเพลย์ของเกมนี้ จะเป็นเกมผจญภัยแบบ Open Zone สักเล็กน้อย เราสามารถออกสำรวจพื้นที่รอบ ๆ ได้ โดยจะมีทั้งปริศนาต่าง ๆ ให้เราแก้ไข มีพื้นที่ลับให้เราออกสำรวจ โดยทุก ๆ การออกสำรวจ จะเป็นแต้มต่าง ๆ ที่จะทำให้เราสามารถอัปเกรดอาวุธและชุดของเราได้ เพิ่มความสามารถในการต่อสู้และการเล่นรูปแบบต่าง ๆ

ทีนี้ก่อนจะไปลงลึกเรื่องเกมเพลย์ ความเจ๋งของเกมนี้ก็ตามชื่อภาค Rift Apart ในภาคนี้เราจะได้เดินทางไปยังหลาย ๆ มิติ ซึ่งตัวเกมใช้วิธีนี้ในการนำเสนอสภาพภูมิประเทศที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างในช่วงแรก เราอาจจะได้เล่นในเมืองไฮเทคลอยฟ้า และต่อมา เราอาจจะได้ไปโซนภูเขาและธรรมชาติ รวมไปถึงพวกสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่าง ๆ แต่ใครที่เป็นคนขี้กลัว ก็บอกเลยว่าหายห่วง เพราะเกมนี้ดีไซน์เหล่าศัตรูและสัตว์ประหลาดมาได้น่ารักน่าชังมากกว่าน่ากลัว อาจจะมีความน่าแหยงอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าทุกคนเล่นได้ แม้กระทั่งเด็ก ๆ ก็เล่นได้ เพราะแม้แต่อาวุธการโจมตีของเราก็ยังไม่ได้สื่อถึงความรุนแรง และการเข่นฆ่าโดยตรง คุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากเล่นให้ลูกดู หรือซื้อให้ลูกเล่น เกมนี้สอบผ่าน ทำได้หมดเลย

มาดูกันในด้านเกมเพลย์กันบ้าง ตัวเกมใช้รูปแบบการนำเสนอแบบเกม Third Person ผสมผสานกับความเป็นเกมแอ็คชั่นเดินหน้ายิง จะไม่มีความซับซ้อนใด ๆ ในการต่อสู้ แต่เราจะมีตัวเลือกในการใช้อาวุธที่หลากหลายมาก โดยอาวุธแต่ละประเภทจะใช้กระสุนที่แตกต่างกัน นอกจากนั้นการใช้อาวุธนั้นบ่อย ๆ ยังเป็นการเก็บเลเวลหรือค่าประสบการณ์ของอาวุธนั้น ๆ ทำให้เราสามารถปลดล็อคเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ในการยิงได้ อย่างเช่นปืนพกสีเขียวตอนเริ่มต้น ถ้าใช้บ่อย ๆ จนเลเวลอัพ มันจะยิงออกมาได้หลายทิศทาง ทำให้กำจัดศัตรูได้ไวขึ้น และเกมนี้ การเลือกใช้อาวุธปืนประเภทต่าง ๆ ก็จะส่งผลกับศัตรูที่แตกต่างกัน อย่างเช่นการยิงมอนสเตอร์ระดับบิ๊กเบิ้มหรือบอส ถ้าใช้กระสุนปืนทั่วไป รับรองว่ายิงกันจนเมื่อยมือ แม้ว่าจะอัปเกรดมาแล้วก็ยังใช้เวลานาน ดังนั้นพยายามหาอาวุธที่เหมาะสมในการสู้กับแต่ละสถานการณ์

ทุก ๆ ครั้งที่เรากำจัดศัตรูได้ จะดรอปเศษน็อต หรือ Bolt ที่เป็นค่าเงินในเกม และตามฉากจะมี Raritanium ที่เป็นหินแร่พิเศษซ่อนอยู่ตามฉาก สำหรับ Bolt จะใช้ในการซื้ออาวุธใหม่ ๆ ตามจุด Checkpoint ที่เราเจอ รวมไปถึงใช้ในการเติมกระสุนที่หมดได้ด้วยจากร้านค้านี่แหละ ส่วน Raritanium จะเป็นหินแร่ที่ใช้ในการปลดล็อคความสามารถเสริมของอาวุธนั้น ๆ เช่นทำให้มันจุกระสุนได้มากขึ้น ยิงได้แรงขึ้น แต่ Raritanium เนี่ย มันจะชอบหลบอยู่ตามฉาก ดังนั้นถ้าอยากหาได้เยอะ ๆ ก็ต้องขยันสำรวจ ฟาดกล่องบ่อย ๆ ไปดูทางที่ไม่เคยไปเยอะ ๆ หลัก ๆ เกมเพลย์ของ Ratchet & Clank: Rift Apart นั้นมีอยู่ประมาณนี้ เข้าถึงไม่ยากจนเกินไป

ส่วนของความเจ๋งจริง ๆ เลยคือ กราฟิก ใครที่ทันเล่นมาตั้งแต่สมัย PlayStation 5 ออกเมื่อปี 2020 เนี่ย จะรู้เลยว่านี่เป็นหนึ่งในเกมเปิดยุค Next-Gen ที่ภาพโคตรสวย สวยมาก ๆ ซึ่งพอมาลง PC ที่สเปคมาแรงแซง PS5 ขึ้นมา (แล้วแต่เครื่องคน) มันก็ยิ่งทำให้ภาพและการแสดงผลบางอย่างสวยงามมากยิ่งขึ้น ด้วยลูกเล่นต่าง ๆ ทั้ง DLSS การปรับลดรอยหยักและการตั้งค่ากราฟิกต่าง ๆ ที่ปรับแต่งบน PC ได้ แต่งานนี้เตือนกันก่อนว่า ใครที่คิดจะเล่นเกมนี้บน PC สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้จริง ๆ เลยก็คือส่วนของ SSD เพราะเครื่องจะใช้ขุมพลังจาก SSD เยอะมาก เนื่องจากเป็นการเดินทางไปมาระหว่างรอยแยกมิติ ทำให้มีการประมวลผลฉากต่าง ๆ หลายฉากในเวลาเดียวกัน นอกจากนั้นเกมยังมีการแสดงผลที่รวดเร็วและว่องไว ใครที่ยังใช้ฮาร์ดดิสก์จานหมุนอยู่ รับรองว่าไม่รอด

จากสุดยอดเกม Exclusive บน PS5 สู่ประสบการณ์เกมสุดเจ๋งบน PC ด้วย กับ Ratchet & Clank: Rift Apart

ด้วยความที่ตัวเกมดึงเอาประสิทธิภาพของเวอร์ชั่น PC ออกมาได้อย่างเต็มที่ และตัวเกมก็ยังสนุก เล่นได้ทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งเกมประจำปีนี้ที่แฟนเกมไม่ควรพลาดบน PC หรือใครอยากจะกลับไปเล่นบน PS5 ก็ได้เช่นกันจ้า

เล่นเกมกันให้สนุก
ถ้ามีอะไรอยากบอก Thai Gamers ก็คอมเมนต์ทิ้งไว้ได้เลยยยยยยยย

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ

Facebook
Twitter
VK

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Follow us

Scroll to Top