ประทับใจกับต้นฉบับยังไง Remake ก็ยังทำให้เราประทับใจได้แบบนั้นเลย มันเจ๋งยังไง มา เราจะรีวิวให้อ่านกัน
สำหรับเนื้อเรื่อง ผมว่าเราคงไม่ต้องพูดซ้ำกันแล้วว่าเหตุการณ์ภาคนี้มันเกี่ยวกับอะไร โดยรวมแล้วเนื้อเรื่องของภาคนี้มันก็ญังคงเหมือนเดิม มันคือภารกิจมาช่วยลูกสาวประธานาธิบดี แอชลีย์ เกรแฮม และเบาะแสพาลีออนมายังหมู่บ้านชนบทในสเปน คอร์เนื้อเรื่องมันไม่ได้เปลี่ยน แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือรายละเอียด ถ้าคุณเป็นสายอ่านเอกสาร คุณจะเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ว่า Osmund Saddler เข้ามาเผยแพร่ลัทธิในหมู่บ้านนี้ได้ยังไง ชาวบ้านต้องเจออะไร ทำอะไรกันไปบ้าง ปกติแล้วพวกไฟล์เอกสารพวกนี้ มันจะเป็นคำตอบให้กับสถานการณ์รอบ ๆ หรือพื้นที่ตรงนั้นแหละ ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้ มันทำให้เรื่องราวดูสมเหตุสมผลมากขึ้น คือจริง ๆ ในต้นฉบับมันก็มีอะไรแบบนี้ แต่มันไม่ลงลึกเท่านี้
และจังหวะจะโคนในการดำเนินเรื่องก็จะเปลี่ยนไป จากต้นฉบับที่มันเล่าเป็นบทใหญ่ บทย่อย แบบ 1-1 1-2 1-3 มาอันนี้เขาหั่นบทย่อยออก กลายเป็น Chapter ใหญ่ ๆ ไปเลย มีทั้งหมด 16 Chapter ซึ่งจากที่ผมเล่นมา ผมว่าเขาเปลี่ยนจังหวะการเล่าเรื่องดีมาก มีบ่อยมากนะ ที่ผมคิดว่า เฮ้ย จบ Chapter แล้วเดี๋ยวไปอาบน้ำ อาบท่า หาอะไรกินก่อน ค่อยกลับมาต่อ แต่ภาคนี้มันทำยังกะซีรีส์ คือจบแบบชวนเล่นต่อมาก กลายเป็นว่าผมยิงยาว ๆ เลย เป็นการเล่าเรื่องที่เจ๋งมาก มัดคนไว้กับจอยเกมนั่นแหละ
นอกจากนั้นบทบาทบางตัวละครก็จะเปลี่ยนไป ทั้งที่มาที่ไป การปรากฎตัว หรือแม้กระทั่งการตาย เอาเป็นว่าแฟนเกมน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วใครอยู่ ใครไปบ้างในภาคนี้ แต่ผมชอบที่เขาเปลี่ยนการเล่าเรื่องใหม่ เพิ่มรายละเอียดเรื่องราวลงไป โดยเฉพาะตัวละคร Luis เนี่ย คือผมชอบมาก ๆ ในภาคนี้เลย หรือ Ada Wong ที่ออกมาไม่เยอะ แต่โผล่มาทีก็ชัดเจนว่าขโมยทั้งซีน และหัวใจคนเล่นไปแบบเต็ม ๆ เอาซะรัศมี Ashley หมองไปเลยทีเดียว นอกนั้นก็ถือว่าทำได้ดี หลัก ๆ ตัวละครในภาคนี้มันไม่ได้เยอะอยู่แล้ว พอ Remake มันเลยทำให้น่าจดจำได้ดีขึ้นไปอีก ใครจะว่าไงไม่รู้แหละ แต่สำหรับผมนี่คือยอดเยี่ยมมาก
พวกฉาก และแผนที่ ต้องบอกว่ามีทั้งที่ตัดออกไป และเปลี่ยนแปลงใหม่ให้มันเวิร์คขึ้น แผนที่ใน Resident Evil 4 ก็จะยังคงเหมือนกับ Resident Evil ภาคเก่า ๆ คือมัจะไม่เชิงเป็นเส้นตรงซะทีเดียว แม้เกมจะนำเสนอแบบจบเป็น Chapter ไป แต่หากมีช่วงเวลาพัก หากเราอยากจะย้อนกลับไปสำรวจ หรือเก็บตกไอเทมที่เราข้ามไปก็สามารถทำได้ แม้จะไม่ใช่เกม Open World แต่ผมว่าหากเราออกสำรวจ มันจะมีพื้นที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เราไปเจอกันเยอะพอสมควรเลย บางที่ต้องเปิดแผนที่ดู ถึงจะรู้ว่า มันมีอยู่ด้วย
เอาล่ะ ทีนี้มาเข้าเรื่องราวหลัก ๆ คือส่วนของตัวเกมกัน อย่างแรกคือระบบการควบคุม ที่ภาคนี้เราสามารถหันตัวละครไปมาได้อย่างอิสระแล้ว ใครเคยเล่นภาคออริจินอลจะรู้ดีกว่า การเคลื่อนไหวมันจะแปลก ๆ หน่อย แต่ภาคนี้คือ ใครเล่นภาค 2 ภาค 3 มา ก็จะคุ้นชินกับการควบคุมแน่นอน หรือคนที่เล่นเกมยุคใหม่ ๆ มาเยอะก็จะเล่นได้แบบสบาย ๆ ส่วนของศัตรูก็ถือว่ามีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดอะไรหลาย ๆ อย่าง จากที่ผมลองพูดคุยกับคนอื่น ๆ มา ทุกคนคิดเหมือนกันหมดว่าภาคนี้จะค่อนข้างตึงมือ เพราะชาวบ้านมันดูฉลาดขึ้น และมีมูฟเม้นออกท่าโจมตีเราแบบสุ่มหลายหนมาก ไอ้เดิน ๆ ยิงเพลิน ๆ อยู่ดี ๆ มันพุ่งมาจับเรานี่ เจอบ่อยมาก และเกมนี้ยังคงมี Quick Turn หรือกลับตัวอย่างรวดเร็วอยู่ จริง ๆ การ Quick Turn ถ้าใครใช้เมาส์คีย์บอร์ดคล่อง ๆ อาจไม่จำเป็นต้องกด แต่ถ้าเล่นบนคอนโซลหรือใช้จอย นี่คือการควบคุมที่คุณควรจะกดใช้ให้ชิน เพราะช่วงหลัง ๆ รับรองได้ใช้บ่อยแน่ ๆ
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ที่เพิ่มมาในภาคนี้เลยคือระบบ Parry ด้วยมีด จริงอยู่ว่าต้นฉบับมีดมันไม่มีวันพัง แต่ในเวอร์ชั่น Remake นี้ เเราสามารถใช้มีด Parry การโจมตีของศัตรูได้ด้วย และใช้ Parry พวกสิ่งของที่ศัตรูมันปามาได้ สารภาพตรง ๆ เลย ตอนแรกผมคิดว่ามันควรจะบอกสัญญาณอะไรสักอย่างทีเรา Parry ได้ แต่พอเล่นไปกลาง ๆ เกม ถึงเห็นว่า ถ้าสิ่งที่ศัตรูโจมตีเข้ามามัน Parry ได้ มันจะมีปุ่มขึ้นเลยที่ด้านขวาล่างจอนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ก็โดนไปจนอ่วมเลย กว่าจะรู้ตัว มีดของเราสามารถพังได้ก็จริง แต่เราสามารถหามีดอื่น ๆ มาใช้ได้ด้วย และมีดหลักของเราหรือ Combat Knife เนี่ย สามารถอัปเกรด เพิ่มความคงทน และเพิ่มความเสียหายได้ด้วย บอกเลยว่าตอนอัปความคงทนไปสูง ๆ แล้วนี่ Parry กันมันมือมาก ๆ รับมือพวกเลื่อยไฟฟ้ายังชิว ๆ ได้อยู่
อีกอย่างนึงที่ชอบ คือด้วยความที่ภาคนี้อาวุธมันมีให้เลือกเล่นเยอะมาก ๆ ภาคนี้เราสามารถติดตั้งอาวุธและไอเทมลงไปใน Shortcut ได้มากขึ้น 8 อย่างด้วยกัน คือมันไม่ได้ใส่แค่อาวุธได้เท่านั้น แต่พวกอุปกรณ์เสริมอย่างระเบิด อะไรพวกนี้ก็สามารถใส่ได้ พอมันใส่ได้เยอะขนาดนี้ ทำให้เรามีทางเลือกติดตั้งอาวุธสำรองฉุกเฉินไว้ได้เยอะมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมเช็คด้วยว่าอาวุธที่เราใช้ มันเป็นประเภทเดียวกันไหม ไม่งั้นสลับอาวุธไปก็ไร้ค่า กระสุนหมดพอกันทั้งคู่ แต่การมี Shortcut แบบนี้ ถือว่าเจ๋งมาก จากต้นฉบับที่เราต้องเปิดกระเป๋า สลับอาวุธตลอด กลายเป็นคราวนี้กด Shortcut ได้เลย สบาย ๆ ทำให้มเกมเพลย์ลื่นไหลดีขึ้นมาก จังหวะบู๊ไม่มีสะดุด
ระบบการผสมสมบัติก็ยังคงกลับมาในภาคนี้ แต่ถูกปรับเปลี่ยนให้เรียบง่ายมาก ในต้นฉบับนั้น เราจะต้องจับต้นชนปลายเอง ว่าใช้อะไรผสมอะไร ถึงจะได้มูลค่า แต่ในภาค Remake นี้ แบ่งอัญมณีออกเป็นสองแบบ แบบเหลี่ยมกับแบบกลม และแบ่งเกรดตามสี และหากไอเทมชิ้นไหนฝังอัญมณีได้ มันก็จะบอกเลยว่าฝังแบบนี้ได้นะ แล้วก็มีตารางคอมโบมาให้เราดูด้วย ว่าฝังอัญมณีแบบไหนได้โบนัสมากน้อยแค่ไหน บอกเลยว่าภาคนี้เราจะสนุกสนานกับการหาอัญมณี หาสมบัติมาก ๆ เพื่อจะได้ร่ำรวยเงินทอง และเป็นอีกตัวการที่ดูดเวลาเราได้ แน่นอนว่าเมื่อมีผสมสมบัติ อีกระบบที่ตามมาด้วยก็คือระบบ Side Mission หรือภารกิจรอง ในภาคนี้ Spinel จากภาคต้นฉบับจะถูกเปลี่ยนมาเป็นอัญมณีพิเศษ ที่ใช้แลกไอเทมจากพ่อค้าได้ โดยเจ้า Spinel นี้จะได้จากการทำภารกิจรอง หรือเควสกระดาษฟ้า ที่มีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย ทั้งจับปลา ฆ่างูมาขาย หาไข่จากไก่ หรือยิงเหรียญฟ้า เอาง่าย ๆ ภาคนี้มันทำให้เราเสียเวลากับมันได้มากขึ้นไปอีก ดีไม่ดี มากกว่าต้นฉบับเลยด้วย
และที่เจ๋งจริง ๆ ของภาคนี้คือเกมเพลย์ สุดยอดมาก เกมเพลย์ในภาคนี้ มันชวนให้เราเล่นต่อ ชวนให้เราไปต่อเรื่อย ๆ แบบวางจอย ปล่อยเมาส์ไม่ลง คือเดิมทีภาค 4 มันก็เป็นภาคที่เน้นความเป็นแอ็คชั่นสนุกอยู่แล้ว แต่พอมาเป็น Remake นี่มันทำให้ทุกอย่างลงตัว ลื่นไหลขึ้นมาก และการต่อสู้มันก็ดุเดือดถึงใจสุด ๆ ปืนทุกกระบอกมีความ Powerful มีความสนุกในการยิงของมันแทบจะทุกกระบอก ปืนพก ปืนลูกซอง ปืนไรเฟิล คือปืนไหนก็ได้อะ ได้หมดเลย ยิงมันทุกกระบอก และภาคนี้ระบบอัพเกรดก็ยังคงมาด้วย ปืนที่เราอัพเกรดไปแล้ว หากขายคืนเพื่อเปลี่ยนอาวุธก็จะได้เงินคืนเต็มจำนวนด้วย อย่างเจ๋ง และปืนต่าง ๆ บางกระบอก ยังสามารถเก็บได้ฟรีตามมิชชั่นต่าง ๆ เช่น Red 9 , CQBR ใครสายขยัน ชอบเก็บ ชอบสำรวจ ก็มีรางวัลให้พอสมควรเลย
ศัตรูที่มาพร้อมอาวุธประเภทขว้าง อย่างระเบิดไดนาไมต์ หรือขวาน ถ้าเราใจนิ่งพอ เล็งยิงดี ๆ เราสามารถยิงให้มันระเบิดคามือมันไปเลยได้ หรือจะให้มันปามา แล้วล่อให้ศัตรูตัวอื่น ๆ มาใกล้ระเบิดเพื่อช่วยเคลียร์ได้เหมือนกัน และผมว่าภาคนี้เขาค่อนข้างทำ Pacing หรือจังหวะเกมได้ดีมาก ฉากบู๊แบบเดือด ๆ มีเยอะมาก คือสู้จบแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่ามันขาดหรือเกินเลย มันพอดีมาก แล้วพอจบฉากบู๊ที ก็๗ะเป็นช่วงสำรวจ ช่วงฟาร์มของและอัพเกรด ทำให้เราสนุก และระทึกไปตลอดทั้งเกม และมันยังมีโซนพักผ่อน แบบพักผ่อนจริง ๆ คือมินิเกมยิงเป้า ที่มีรางวัลเป็น Token ไปแลกพวงกุญแจห้อยกระเป๋า ซึ่งทั้งกระเป๋าและพวงกุญแจเนี่ย มันจะส่งผลต่อ Perk และความสามารถเสริมของลีออน ทำให้รูปแบบการเล่นหลากหลายมากขึ้นไปอีก
ด้านเนื้อเรื่องและเนื้อหา ต้องบอกว่าสมกับคำว่า Remake เพราะมันมีทั้งการปรับปรุงของเดิมให้ดีขึ้น การเพิ่มของใหม่เข้ามา และตัดบางอย่างออกไป ส่วนที่ตัดออกไป ส่วนมากจะเป็นส่วนที่มันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร เช่นการที่เอด้าใส่ชุดกี่เพ้ามาลุย หรือฉากกระโดดหลบเลเซอร์ของลีออน แต่ก็มีบางอย่างที่น่าเสียดายที่ตัดออกไป อย่างเช่นบอส U-3 แต่ก็มีคนคาดเดาว่ามันอาจจะไปอยู่ในส่วนของ DLC Ada ที่จะตามมาในอนาคต ส่วนเพิ่มเข้ามาใหม่ก็อย่างเช่นการเพิ่มพื้นที่สำรวจต่าง ๆ ให้กว้างขึ้นเล็กน้อย และมีอะไรให้ทำเยอะขึ้นด้วย ส่วนตัวผมโอเคเลยนะ มันไม่ได้รู้สึกว่าขาดตกอะไรไปเลย แถมบางอย่างยังอาจจะเพิ่มเข้ามาในอนาคตได้อีก ส่วนที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก็เช่นเกมเพลย์ในส่วนของ Ashley ผมว่ามันน่ากลัวกว่าต้นฉบับนะ เพราะเราสู้ไม่ได้ไม่พอ โดนศัตรูตีทีเดียวตายอีก แถมโมเดลแอชลีย์ภาคนี้ เอาซเราไม่อยากให้น้องแกเป็นอะไรเลย มันทำดีเลยล่ะส่วนของแอชลีย์ในภาคนี้
คือเอาจริง ๆ สำหรับผมที่ชอบ Resident Evil 4 ต้นฉบับอยู่แล้ว เจอภาคนี้เข้าไป โอโห เล่นได้ไม่เบื่อเลย คือผมเพิ่งจบไปรอบเดียวนะ แต่มันยังมีอะไรอีกหลายอย่างให้ปลดล็อค ชุดเกราะแอชลีย์ ชุดลีออน ปืน และอื่น ๆ คือต้องยอมรับว่า อาวุธที่ปลดล็อคได้ในภาคนี้มันน้อยกว่าภาค Village แต่เกมเพลย์มันเดือดมาก เดือดจนอยากเล่นซ้ำ เอาไว้ผมจบโหมด Hardcore และ Professional แล้ว จะมาเล่าอีกทีว่ามีอะไรให้ทำอีกบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ผมว่าแฟน Resident Evil จะชอบภาคนี้แน่ ๆ ทั้งที่เคยเล่นภาค 4 และไม่เคยเล่นภาค 4 เจ๋งจริงครับ
ใครยังไม่เคยเล่น จัดไปกับ Resident Evil 4 ตอนนี้วางจำหน่ายแล้ว และน่าจะมีอัปเดตตามมาอีก อย่างโหมด Mercenaries จะมา 7 เมษายนนี้ ก็เอาไว้ว่ากันต่อในอนาคต แต่สำหรับตอนนี้ ขอให้คะแนนแบบโคตรชอบเลย เต็มสิบไม่หักไปเลยละกัน