เรื่องราวของ Pom เด็กสาวที่ออกผจญภัยมานาน เธอได้เดินทางกลับมาบ้าน โดยบ้านของเธอเปิดกิจการร้านอาหารอยู่ที่เมือง Paell แต่เธอก็ได้รับจดหมายจากพ่อแม่ว่าให้รีบกลับมาด่วน เพราะคิดว่าใกล้จะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน แต่ปรากฎว่าเมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็พบว่าพ่อกับแม่ของเธอได้รางวัลแจ็คพ็อตเที่ยวรอบโลก เลยตัดสินใจส่งไม้ต่อกิจการร้านอาหารให้ Pom และ Biscotti ดูแลแทนไปก่อน แถมยังขายเฟอร์นิเจอร์และของเกือบทุกอย่างในร้านไปหมด เพื่อใช้เป็นทุนไปเดินทางรอบโลก แหม พ่อแม่ดีเด่นซะจริง งานนี้การฟื้นฟูและดูแลกิจการร้านอาหารของ Pom จึงได้เริ่มต้นขึ้น
สำหรับเกมนี้ ถือเป็นเกมลูกผสมที่มีทั้งความเป็น Roguelite และ Simulator เข้าด้วยกัน และมันยังคงเป็นแนวเกมแบบที่แฟน ๆ คุ้นเคย โดยในช่วงเวลากลางวัน ผู้เล่นจะเลือกได้ว่าจะเปิดกิจการร้านอาหาร เพื่อหาเงินจากการขายอาหาร หรือจะออกไปตะลุยดันเจี้ยน เพื่อหาวัตถุดิบมาเข้าร้าน เพราะสุดท้ายการเปิดร้านอาหาร รับลูกค้า ก็ต้องใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหาร ถ้าขาดวัตถุดิบก็ปรุงอาหารไม่ได้
ร้านอาหารของเราจะอยู่ใกล้กับกลางเมือง และรายล้อมไปด้วย NPC ที่ทำหน้าที่ค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ที่รับหน้าที่ในการขายเฟอร์นิเจอร์ ช่างตีเหล็กที่ช่วยในการเสริมพลังไอเทมและอาวุธ หรือแม้แต่ช่างเย็บผ้าที่ช่วยคราฟท์กระเป๋า และหากเราต้องการยาเสริมพลังไปด้วย ยังมีร้านชานมไข่มุกอีกต่างหาก ใครสายหิวง่าย เล่นเกมนี้ไประวังหิวกันนะ ! โดยไอเทมจำพวกเครื่องดื่มนั้น จะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตแบบฉุกเฉิน เหมาะกับการเอาไปฟาร์มระหว่างวันด้วย ในด้านของความเป็นเกม Roguelite ก็ถือว่าเป็นเกมที่ดีไซน์ออกมาได้ดี และสร้างสรรค์มาก
เริ่มจากเกมเพลย์ในส่วนของการบริหารจัดการร้าน ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะกดเปิด-ปิดร้านในช่วงใด แต่สิ่งที่ห้ามเลยก็คือ อย่าเพิ่งออกจากหมู่บ้านไปลงดันเจี้ยนก่อน เพราะถ้าเกิดว่าเราไปลงดันเจี้ยน เมื่อใดที่กดกลับมาที่หมู่บ้าน เวลาของโลกในเกมจะเป็นเวลา 22.00 น. ทันที และหมู่บ้านก็จะเงียบสงบ เพราะชาวบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว และเราจะไม่สามารถจัดการปรับปรุง หรือแก้ไขอะไรในร้านอาหารของเราได้เลย ต้องรอเช้าวันถัดไปเท่านั้น ตรงส่วนนี้ทำให้รู้สึกว่า เกมทำ Pacing ออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก อย่างน้อยช่วงเวลากลางคืนก็น่าจะเหลือเวลาให้เราทำอะไรอย่างอื่นบ้าง อันนี้กลับจากดันเจี้ยน คือต้องเข้านอนอย่างเดียวเลย
ในเวลากลางวัน เวลาจะเริ่มเดินตั้งแต่ 9 โมงเช้า ในระหว่างนี้ผู้เล่นสามารถทำอะไรก็ได้ จะออกไปคุยกับ NPC รับภารกิจต่าง ๆ ก็ได้ หรือที่ดีที่สุดเลยนั่นคือการหาเงินโดยการเปิดร้านอาหาร เพราะเงินในเกมนี้ เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ และใช้ทำแทบจะทุกอย่างในเกม ไม่ต่างอะไรไปกับเงินที่เราใช้กันในชีวิตจริง ๆ นี่ล่ะ เริ่มตั้งแต่การใช้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ เพื่อทำให้ร้านของเรา สามารถรับลูกค้าได้มากขึ้น ไปจนถึงขยายร้านของเราให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ดังนั้นช่วงเวลากลางวัน จึงเป็นตัวเลือกสำคัญว่าเราจะทำอะไรมากกว่ากัน แต่การเปิดร้านอาหารก่อน ทำให้ตัวละครต้องออกแรงทำงาน และเกิดค่าความเหนื่อยขึ้น พลังชีวิตสูงสุดจะลดลง การไปลงดันเจี้ยนฟาร์มของต่อจึงมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น
สำหรับการเปิดร้านอาหาร เมื่อกดเปิดร้านแล้ว ที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยาก ตัวเกมจะกลายไปเป็นเกมแบบ Management แต่ก็เล่นง่ายมาก ลูกค้าจะเดินเข้าร้านมา และหาโต๊ะนั่งด้วยตัวเอง ถ้าไม่มีโต๊ะรองรับเพียงพอ ลูกค้าก็จะไม่พอใจและออกจากร้านไป หรือถ้าไม่มีเมนูอาหารที่พวกเขาต้องการ ก็จะออกจากร้านไปเช่นกัน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเกมนี้มันง่ายมาก ๆ การที่ลูกค้าไม่พอใจ จะไม่ส่งผลอะไรกับร้านเราเลยแม้แต่น้อย มากสุดคือไม่ได้เงินจากลูกค้าคนนั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
วิธีการทำอาหารก็ง่ายแสนง่าย หากร้านของเรามีอุปกรณ์ทำอาหารที่จำเป็นอยู่แล้ว ระบบจะแสดงเป็นเครื่องหมาย ! สีแดงให้เห็นว่าลูกค้าที่เข้ามา ต้องการทานเมนูนี้ เราก็แค่กดเข้าไปตรงอุปกรณ์ทำอาหาร และกดคลิกอาหารเมนูนั้น ๆ ระบบก็จะผลิตอาหารออกมาให้เอง แถมไม่พอ เมื่ออาหารผลิตเสร็จสิ้นแล้ว มันจะถูกนำไปเสิร์ฟบนโต๊ะ และลูกค้าก็จะเดินมาหยิบอาหารไปทานเองด้วย แหม อะไรจะสะดวกสบายขนาดนี้กันเนี่ย และขั้นตอนสุดท้ายคือการจ่ายเงิน ลูกค้าจะมาต่อแถวจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ของร้าน และเราต้องมาเก็บเงินเองด้วย อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน
สำหรับกิจกรรมในด้านของการเปิดร้านอาหาร เหมือนจะยากแต่ก็ไม่ซับซ้อน แถมเข้าใจง่าย เล่นง่ายกว่าที่คิด ใครที่คิดจะมาจริงจัง นึกว่าเป็นเกมซิมูเลเตอร์ อาจจะต้องผิดหวังไปซะหน่อย เพราะเขาแบ่งความสนุกอีกส่วนหนึ่งเอาไว้ในส่วนของการต่อสู้และการผจยภัยตามหาวัตถุดิบต่าง ๆ โดยหากวันไหนที่เราขี้เกียจเปิดร้านอาหาร หรือคิดว่ามีเงินเหลือเยอะพอ เราก็สามารถเดินทางไปสำรวจดันเจี้ยนพื้นที่ต่าง ๆ ได้ เพื่อตามหาวัตถุดิบกลับมาปรุงอาหารให้กับลูกค้า เมื่อเลือกการผจญภัย เกมเพลย์จะเปลี่ยนไปเป็นเกมแบบ Action RPG แบบ Roguelike เมื่อเราเลือกสถานที่ที่จะไปลุยแล้ว สถานที่นั้นจะมีพวกสิ่งมีชีวิตที่ต่างกัน การกำจัดพวกมอนสเตอร์นั้น จะดรอปได้วัตถุดิบประเภทต่าง ๆ มา เช่นตีไก่ก็อาจจะได้เนื้อไก่กับไข่ ตีพวกต้นไม้ก็อาจจะได้ผัก ผลไม้มา วัตถุดิบต่าง ๆ สามารถนำกลับมาที่ร้านอาหาร ใส่ตู้เซฟไว้ และหยิบมาใช้เมื่อลูกค้าเข้าร้าน และต้องการอาหารเมนูนั้น ๆ
ในด้านของระบบต่อสู้ เกมนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือเข้าใจอะไรยากเลย เราจะมีอาวุธหลากหลายแบบ ที่ต่างกันตรงดาเมจและความเร็วในการโจมตี รวมไปถึงสกิลพิเศษด้วย ซึ่งก็อยู่กับผู้เล่นว่าต้องการต่อสู้ในสไตล์ไหน กระเป๋าและช่องเก็บของในช่วงแรกจะมีจำกัดมาก ซึ่งเป็นภาระสุด ๆ เพราะเราลงดันเจี้ยนได้ไม่เต็มที่ แปปเดียวก็เต็มแล้ว ทำให้ต้องกลับมาเมืองเร็วขึ้นและบ่อยขึ้น และถ้าไม่มีอะไรทำ เราก็ต้องกดนอนอย่างเดียวเท่านั้น ข้อเสียจึงเป็น Pacing ของเกมที่ทำได้ไม่ค่อยดี แถมช่วงทำอาหารขายลูกค้าก็น่าเบื่อและเสียเวลาสุด ๆ นับเป็น Pain Point ของเกมนี้เลยก็ว่าได้
แต่อย่างน้อย ๆ Cuisineer ก็มีความสนุกและความเพลิดเพลินจากการลงดันหาวัตถุดิบ และนำมาปรุงอาหาร พัฒนาร้านให้ใหญ่โตมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเกมแอ็คชั่นและบริหารจัดการที่ดีเลยทีเดียว ใครกำลังมองหาเกมเพลิน ๆ เล่นกันช่วงปีใหม่ ก็จัดไปกับ Cuisineer วางจำหน่ายแล้ววันนี้ บน PC (Steam)