รีวิว ท่าแร่ ผลงานใหม่ของผู้กำกับธี่หยด ที่หันมาลองแนวทางใหม่ แต่ยังไม่ลงตัว

เมื่อผู้กำกับอย่างคุณคุ้ย ทวีวัฒน์ วันทา ขอวางมือจากธี่หยด เพื่อมาเริ่มแฟรนไชส์ใหม่ของตัวเอง และนี่คือท่าแร่ สถานที่จริงของจังหวัดสกลนคร สถานที่ที่เป็นชุมชนคริสต์ศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในแดนอีสานของไทย แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดเรื่องราวสุดหลอนและสั่นประสาทชาวท่าแร่ และนี่คือหนังใหม่ของผู้กำกับธี่หยด กับ “ท่าแร่”

ท่าแร่ เล่าด้วยเรื่องราวของบาทหลวงเปาโลที่ได้รับการไหว้วานจากคริสตจักรให้เดินทางไปยังชุมชนท่าแร่ เนื่องเกิดเหตุการณ์ที่อดีตบาทหลวงอย่างตามิ่งเกิดพฤติกรรมประหลาดทำให้ชาวบ้านอยู่ในความอกสั่นขวัญแขวน น้องสะใภ้อย่างยายแสงต้องเข้ามาดูแล ในขณะเดียวกัน ลูกสาวอย่างมาลี ก็ถูกตามกลับมาบ้านเกิดด้วย และนี่คือเรื่ืองราวของความเชื่อพื้นบ้าน และศรัทธาของพระเจ้าที่ถูกผสมผสานออกมาเป็นหนังเรื่องนี้

ต้องบอกว่าไอเดียและความสดใหม่นั้นถือว่าน่าสนใจมาก เพราะเราไม่ได้คิดไม่ฝันมาก่อนว่า จะมีหนังที่ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นแดนอีสาน เข้ากับเรื่องราวของความเชื่อทางศาสนาคริสต์ หรือคริสตจักรและบาทหลวง รวมไปถึงหนังเรื่องนี้ยังทำให้เราได้รู้อีกด้วยว่า ประเทศไทยเองก็มีบาทหลวงปราบผีปีศาจอยู่ด้วย (หนังเล่าผ่านเครดิตช่วงต้นเรื่อง) โดยบาทหลวงแห่งคริสตจักรต้องมาแท็กทีมกับแม่หมอพื้นเมืองเพื่อหาสาเหตุของความสยองขวัญที่ไม่ทราบที่มาที่ไป

แต่หนังกลับเล่าตรงส่วนนี้ได้ไม่ค่อยสมดุลเท่าไร ช่วงแรกเราอาจจะรู้สึกว่ามันน่าสนใจเพราะสองความต่างขั้วจะมาร่วมมือกัน แต่ยิ่งดูไปจนจบ เราจะรู้สึกว่ามันเล่าฝั่งวัฒนธรรมแดนอีสานมากกว่าความเชื่อของฝั่งคริสต์ จนช่วงท้ายนี่ฝั่งคริสต์แทบจะโดนกลบไปซะมิดเลย และหนังแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ของชื่อเรื่องอย่างท่าแร่ได้อย่างคุ้มค่าเท่าที่ควร กลายเป็นหนังปราบผีแดนอีสาน ที่บาทหลวงและคริสตจักร รวมไปถึงความเชื่อของศาสนาคริสต์นั้นเบาบางสุด ๆ

หนังยังมีปัญหาเรื่องของการ Transition จากฉากหนึ่งสู่ฉากหนึ่งแบบเห็นได้ชัด มีหลายซีนที่หนังตัดฉากได้ไม่ค่อยดี ทำให้บางคนอาจจะรู้สึกขัดใจในส่วนนี้ และมันส่งผลกับ Mood & Tone ของหนังโดยตรงด้วย เพราะมันจะไม่รู้สึกต่อเนื่องเท่าที่ควรจะเป็น และหากใครเคยดูธี่หยดมา จะรู้ว่ามันเป็นหนังที่มีการ Tie-in หรือขายสินค้าสปอนเซอร์แบบเนียน ๆ อยู่ด้วย เรื่องนี้คุณคุ้ย ผู้กำกับเองก็ดูจะได้การบ้านในการ Tie-in มาด้วย แต่กลับขายได้ไม่ค่อยแนบเนียน แถมตลกจนหนังดูตลกไปเลยในบางฉาก

แต่หนังยังมีข้อดีตรงที่การเล่าเรื่องที่ชวนติดตามตลอดเรื่องว่าสุดท้ายแล้ว “Last Boss” ของหนังเรื่องนี้คือใคร หรือตัวอะไรกันแน่ การผสผมผสานความเชื่อของสองฝั่งมาเริ่มทำได้ดีเอาในช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง แต่การเฉลยก็แอบดูเรียบง่าย และคาดเดาได้ไม่ยาก เนื่องจากหนังไม่ได้พยายามจะปิดบังคนดูเลย พฤติกรรมแปลก ๆ ของบางตัวละคร ถูกนำเสนอออกมาให้เห็นแบบเด่นชัดจนเกินไป แถมไม่มีการหักมุมใด ๆ อีกต่างหาก แต่ระหว่างทาง การดึงดูดให้เราดูต่อจนจบก็ไม่ได้แย่จนเกินไปนัก

การแสดงของนักแสดงหลักก ตรงนี้ถือว่าทำได้ดีทุกคน แบบทุกคนจริง ๆ ถ้าหนังจะมีจุดติก็คงไม่ใช่ที่นักแสดงเลยสักคนเดียว ทั้งนักแสดงหลัก นักแสดงรอง นักแสดงสมทบ ล้วนทำหน้าที่สื่อสารถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีทุกคน แต่น่าเสียดายที่อาจจะเพราะการเขียนบท พล็อต หรืออะไรก็ตาม ทำให้หนังมันไปไม่สุดเท่าที่ควร

ท่าแร่ อาจไม่ใช่หนังที่แย่จนคุณเสียดายเงินที่ไปดู แต่หากคุณยกมันไปเทียบกับธี่หยด ผลงานเก่าของผู้กำกับเดียวกัน ก็ถือว่าน่าแปลกใจอยู่เหมือนกันที่มันออกมาเป็นคนละทิศคนละทาง เหมือนอยากลองอะไรใหม่ ๆ แต่ยังไปได้ไม่สุดเท่าที่ควร

ท่าแร่ มีกำหนดฉาย 7 สิงหาคม (วันนี้) ทุกโรงภาพยนตร์

แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ

Facebook
Twitter
VK

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน

Follow us

Scroll to Top