เคยคิดบ้างไหมครับว่า ถ้าวันนึงเรื่องที่เราคิดหรือจินตนาการไว้เล่น ๆ มันกลายเป็นเรื่องจริง ก็คงจะดี แต่ที่แน่ ๆ เราคงไม่อยากให้มันเป็นเรื่องสยองขวัญ เนื่องในโอกาสที่ภาค 2 กำลังจะมาถึงในเดือนตุลาคมนี้ วันนี้เราย้อนกลับไปดูกันกับเกมสยองขวัญชื่อดังในตำนาน Alan Wake
Alan Wake คือเรื่องราวของชายหนุ่มชื่อเดียวกันกับเกมนั่นก็คือ Alan Wake เขาเคยเป็นนักเขียนนวนิยายชื่อดัง ที่มียอดขายถล่มทลาย แต่ก็นั่นแหละ ชีวิตของคนที่ทำงานสร้างสรรค์ สักวันก็ต้องมีช่วงถึงทางตัน เขาตัดสินใจไปพักผ่อนกับภรรยา แต่กลับกลายเป็นว่าภรรยาพาเขามาปรึกษาอาการทางจิต ทำให้เขาโกรธมาก แต่ขณะผิดใจกับภรรยานั้น ภรรยาของเขาก็โดนจู่โจมด้วยปริศนาอันดำมืด และเขาก็พบว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และเขาก็ค่อย ๆ พบว่าเหตุการณ์สุดเลวร้ายต่าง ๆ มันเริ่มเหมือนกับต้นฉบันนิยายที่เขาเขียนขึ้นมามากขึ้นทุกที ๆ งานนี้การออกตามหาความจริงและช่วยเหลือภรรยากับการเอาตัวรอดจึงได้เปิดฉากขึ้น
ส่วนตัวผมได้เล่นในเวอร์ชั่น Remastered ที่เพิ่งมีการออกวางจำหน่ายในปี 2021 ที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่าการปรับปรุงกราฟิกฉบับใหม่นี้มันโดดเด่นมาก เปิดเล่นแล้วยังรู้สึกว่าสวยงาม จนนึกว่าเป็นเกมยุคใหม่ พวกกราฟิก รายละเอียด แสง เงา พวกนี้ บอกเลยว่าสุดยอดมาก อาจจะสู้เกมสมัยใหม่ไม่ได้ แต่ในฐานะที่เป็นเกมเก่า แค่นี้ก็น่าประทับใจแล้ว
ส่วนของเนื้อเรื่องนั้น จะบอกว่าล้ำเลิศอะไรมากนัก ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะอายุอานามเกมนี้ก็ปาเข้าไป 11 ปีได้แล้ว เพียงแต่ในช่วงปีที่มันออก เนื้อเรื่องแบบนี้ถือว่าดีใช้ได้ และที่ผมชอบจริง ๆ คือส่วนของการนำเสนอ อันนี้บอกก่อน ผมไม่รู้ว่า Alan Wake ต้นฉบับเนี่ย มันนำเสนอแบบจบเป็น Episode ไปหรือเปล่า แต่เวอร์ชั่น Remastered เขาใช้การนำเสนอแบบนี้ มันให้อารมณ์เหมือนคุณดูซีรีส์ คือจังหวะที่เนื้อหาของเกมกำลังจะพีค กำลังลุ้น เกมก็จะตัดจบและขึ้น End of Chapter โดยฉากก่อนจบนี่ ทั้งเพลง ทั้งดนตรีประกอบ จังหวะจะโคนในการเล่าเนื้อเรื่องนี่ ใช่เลย ทีวีซีรีส์ดี ๆ นี่เอง ชนิดที่ว่า ถ้าใครจะหยิบเอาเกมนี้ไปดัดแปลงเป็นซีรีส์ ไม่ต้องเหนื่อยเลยครับ เขาทำมาแบบไหน ก็ใช้แบบนั้นแหละ เจ๋งมาก และ Chapter นึงก็ยาวประมาณ 30-40 นาที ตามมาตรฐานซีรีส์ต่างประเทศอยู่แล้วอีกต่างหาก แถมพอเริ่มต้น Chapter ใหม่ จะมีการย้อนอดีต หรือ Previously on Alan Wake ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทางซีรีส์ใช้เล่าเรื่องย้อนความเดิมให้ได้ดูกันอีกด้วย ดังนั้นถ้าจะเล่นเกมนี้ให้อินยิ่งขึ้น แนะนำว่าให้เล่นจบไปเป็น Chapter แล้วมาต่อเรื่อย ๆ รับรองอินแน่ แต่ท้ายที่สุดหลายคนอาจจะยิงยาวกันจนจบก็ได้นะ
อีกส่วนอันนี้คือเรื่องของโทนบรรยากาศและกราฟิก อันนี้ที่ผมจะหยิบมาพูดถึงคือเวอร์ชั่น Remastered ที่มีวางจำหน่ายบน Epic Games Store เรื่องกราฟิกก็๖ามฟุตเทจที่ได้ดูกันอยู่นี้ บอกเลยว่ามันสวยงามแล้วก็ลื่นไหลมาก ๆ แต่บางอย่างนี่คือเราต้องทำใจนะ ว่าเกมมันเก่าแล้ว หลายอย่างพวกวัตถุ ฉาก อาจจะดูไม่เนียนตามาก แต่สำหรับผมถือว่าโอเคแล้วอะ เกมเก่าอายุ 10 กว่าปี หยิบมารีมาสเตอร์ ได้แค่นี้ก็สุดยอดแล้วแหละ
ทีนี้เป็นเกมสยองขวัญ มันก็ต้องมีความน่ากลัวอยู่บ้าง บรรยากาศแห่งความน่ากลัวที่เกมนี้นำเสนอเลยคือ ความมืด ความมืดของเกมนี้ ผมรู้สึกว่าถ้าเขาตบ ๆ ให้มันเข้ารูปเข้ารอย ไม่ขาดไม่เกินกว่านี้ มันจะยอดเยี่ยมมาก เพราะอะไร เพราะผมรู้สึกว่าเกมนี้มันไล่ฉากมืด ฉากสว่างได้ไม่ค่อยจะเวิร์ค แต่แค่นิดเดียวนะ ไม่ได้มากจนทำลายอรรถรส อย่างบางฉากเนี่ย มันมืดมาก มืดจนแบบมองอะไรแทบไม่เห็นเลย โดนศัตรูไล่อยู่ วิ่งมั่วไปหมด สุดท้ายตายเฉย และอีกอย่างที่ผมไม่ชอบเท่าไร คือเรื่องของ Minimap อย่างที่เราเห็นในวิดีโอนี้ Minimap ในเกมนี้ จะไม่มีเส้นทางบอกอะไรเลย จะบอกเพียงแค่จุด Waypoint แสดงถึงทิศทางที่เราต้องเดินทางไปเท่านั้น ซึ่งบอกเลยว่า บางฉากประกอบกับที่มันมืดนี่คือ หลงทางง่ายมาก ถึงแม้มันจะเป็นเกมเส้นตรง จังหวะที่เราไม่ได้สู้ วิ่งไปเรื่อย ๆ เนี่ย มันก็โอเคอยู่ แต่จังหวะที่เราสู้ไป หนีไปเนี่ยแหละ โอกาสหลงเกิดขึ้นง่ายมาก ทางก็มืด เส้นทางก็ไม่ชัดเจน บอกเลย ผมตายกับอะไรแบบนี้หลายรอบพอสมควรเลยทีเดียว แต่ถึงยังไงก็ตาม ภาพรวมของเวอร์ชั่น Remastered มันก็ดูดีกว่าต้นฉบับปี 2012 แน่ ๆ
โอเค ว่ากันในส่วนของการนำเสนอไปแล้ว ทีนี้มาดูระบบเกมเพลย์กันบ้าง สำหรับ Alan Wake เนี่ย เป็นเกมแนว Action Horror ทำไมถึงเรียกว่า Action ? เพราะเกมมันมีทางไปต่อทางเดียวคือต้องยิงต่อสู้เกือบจะทั้งเกม มันอาจจะมีโมเมนท์ที่ต้องกระเสือกกระสน วิ่งหนีเพราะกระสุนหมด ถ่านไฟฉายหมดอยู่บ้าง แต่ถ้าคุณเล่นเกมนี้ในความยากระดับ Normal และไม่ลนลานจนยิงพลาดบ่อย กระสุนกับไฟฉายของคุณจะเหลือพอที่จะเอาชีวิตรอดจากศัตรูด้วยการยิงทิ้งให้หมดได้แทบจะตลอดทั้งเกมเลยทีเดียว จะมีบางช่วงเท่านั้นที่คุณอาจจะต้องบริหารจังหวะเวลาให้ดี จะยิง หรือจะสู้ หรือจะวิ่ง เกมนี้มันจะมี 3 อย่างที่คุณต้องบริหาร คือกระสุน แบตเตอรี่ไฟฉาย และค่า Stamina
กระสุน ก็ถือว่าตรงตัวตามนั้น กระสุนเกมนี้มีจำกัด อย่ายิงพลาด หรือช่วงไหนวิ่งได้ก็วิ่ง แบตเตอรี่ไฟฉาย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการเอาตัวรอดเลย ด้วยความที่ศัตรูในเกมนี้ส่วนมากจะเป็นความมืดที่เกาะกินร่างมนุษย์ไว้ การใช้ไฟฉายสาดเข้าไปจะทำให้มันชะงัก เปิดช่องให้เราวิ่งหนีเอาตัวรอด และหากสาดไฟฉายใส่มันมาก ๆ เงามืดจะกระเด็นหลุด จังหวะนี้ที่เราจะใช้ปืนยิงเสริมเข้าไปทำดาเมจได้มากขึ้นจนสังหารได้ ดังนั้นไฟฉายจึงสำคัญมาก ๆ และทำให้เกมนี้เราจะไม่ค่อยอยากยกไฟฉายขึ้นมาส่องทาง เพราะมันเปลืองแบต และสุดท้ายกับ Stamina ที่เราเอาไว้วิ่ง เกมนี้ใครคิดที่จะกดวิ่งยาว ๆ บอกเลยว่า อย่าได้คิดจะทำเช่นนั้น ไม่งั้นเราจะเจอกับสถานการณ์โดนรุมยำ เพราะไม่มี Stamina พอที่จะหนีบ่อยมาก
สำหรับระบบอื่น ๆ นั้นไม่มีอะไรมาก เพราะนี่คือเกม Single Player ที่เน้นการเล่าเรื่องแบบเป็นเส้นตรง ไม่มี Side Mission ไม่ค่อยมีพื้นที่อะไรให้เราสำรวจ แต่ใครที่อยากเก็บรายละเอียด เนื้อหา หรือว่าเรื่องราว อาจจะต้องไปไล่เก็บเอกสาร Manuscript หรือว่าไฟล์ต้นฉบับที่จะขยายเรื่องราวและเหตุการณ์บางอย่างให้คนเล่นอย่างเราได้เข้าใจกันมากขึ้น ดังนั้นมันจึงอาจเป็นประสบการณ์การเล่นเกมแบบตูมเดียวจบ ซึ่งหากหยิบมาเล่นในยุคนี้ ก็ถือว่าไม่ได้แย่ ยังไม่ตกยุคจนเกินไป ถ้าคุณเล่นตัวรีมาสเตอร์ แต่ถ้าเป็นตัวต้นฉบับใน Steam อาจจะรู้สึกว่ามันเก่า ๆ หน่อย ดังนั้นแนะนำว่าให้เล่นบนเวอร์ชั่น Remastered จะดีกว่า
Alan Wake II เตรียมวางจำหน่าย 17 ตุลาคมนี้ และหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้รู้จักกับ Alan Wake มากยิ่งขึ้น